บทสัมภาษณ์ นายธนกฤต เจียรวัฒนากร
ประธานองค์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วม 3 ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ณ โรงแรมบางกอกมิดทาวน์ กรุงเทพฯ ประเด็น กรณีน้ำท่วมหาดใหญ่
ภายหลังการประชุมร่วม 3 ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน นายธนกฤต เจียรวัฒนากร ประธานองค์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยระบุว่า
“สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า โครงสร้างการบริหารจัดการน้ำของเรายังต้องการการปรับปรุงในหลายมิติ ทั้งระบบระบายน้ำ การคาดการณ์สภาพอากาศ และความพร้อมของหน่วยงานท้องถิ่น เราไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการค้าชายแดนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของภาคใต้”
นาย ธนกฤต กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีข้อเสนอเชิงรูปธรรมหลายประการ เช่น การเร่งจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ โดยให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น การสร้างระบบเตือนภัยที่แม่นยำและเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการระบายน้ำที่ทันสมัยมากขึ้น
“สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกหน่วยงานต้องทำงานแบบ ‘ปฏิบัติจริง’ ไม่ใช่แค่ในเอกสาร ต้องลงพื้นที่จริง ฟังเสียงประชาชนจริง และเตรียมพร้อมก่อนภัยจะมา ไม่ใช่รอให้เกิดวิกฤตแล้วค่อยแก้ไข การป้องกันล่วงหน้าคือเครื่องมือที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับประเทศ” นายธนกฤตกล่าว
ประธานองค์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจยังกล่าวด้วยว่า ภาคประชาชนได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งทบทวนยุทธศาสตร์รองรับภัยพิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจหลักอย่างหาดใหญ่ ซึ่งถือเป็น “เมืองศูนย์กลางภาคใต้ตอนล่าง” และต้องมีแผนป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
“เราจะนำข้อเสนอทั้งหมดส่งต่อให้ฝ่ายนโยบายโดยเร่งด่วน และพร้อมสนับสนุนทุกกระบวนการร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อให้ชุมชนหาดใหญ่กลับมายืนบนพื้นฐานที่มั่นคงอีกครั้งโดยเร็วที่สุด” นายธนกฤตกล่าวทิ้งท้าย
