“คณะทูต 33 ประเทศ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ พิสูจน์หลักฐานกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา”
วันที่ 16 สิงหาคม 2568 คณะทูตและผู้แทนจาก 33 ประเทศ 1 องค์กร และ 2 องค์การระหว่างประเทศ รวม 36 คน เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนมุ่งหน้าสู่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพบการใช้ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
คณะประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 10 คน จาก 9 ประเทศและ 1 องค์กร ได้แก่ ฟิลิปปินส์, สหภาพยุโรป, เนเธอร์แลนด์, สเปน, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, อิตาลี, วาติกัน, ศรีลังกา และตุรกี รวมถึงอุปทูตรักษาการชั่วคราว 6 คน จากนอร์เวย์, ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฟินแลนด์ และโปรตุเกส
นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต 17 คน จาก 16 ประเทศและ 1 องค์กร อาทิ ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ญี่ปุ่น, สปป.ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม พร้อมผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารจากเกาหลีใต้และสวีเดน รวมทั้งผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ Golden West Humanitarian Foundation และ Norwegian People’s Aid
ตามกำหนดการ คณะทูตฯ จะเดินทางไปยังผามออีแดง เพื่อรับฟังบรรยายสรุปและเยี่ยมชมการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ภูมะเขือ พร้อมตรวจเยี่ยมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายบริเวณบ้านหนองเม็ก ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ รวมทั้งเข้ารับฟังบรรยายสรุปที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา
การลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญให้คณะทูตและสื่อมวลชนได้เห็นภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใสต่อประชาคมโลก ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของไทยในการยึดมั่นสันติวิธีและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เพื่อสร้างรากฐานสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค.
ขอบคุณเจ้าของภาพ
