รวมตัว ‘รวมพลังแผ่นดิน’ แถลงจุดยืน จี้นายกฯ รับผิดชอบคลิปเสียงคุย ฮุน เซน
.
วันนี้ (20 มิ.ย.) กลุ่มมวลชน ภาคประชาชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายเครือข่าย ร่วมแถลงจุดยืน ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ปกป้องอธิบไตย ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน
.
โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ด้วยการลาออกจากตำแหน่งทันที พร้อมทั้งให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เนื่องจากถือว่าหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
.
นายนิติธร ระบุว่า นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ระบบการเมืองไทยประสบปัญหาผู้นำที่ไม่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขาดเจตนารมณ์ในการทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน นำไปสู่วิกฤตด้านการเมือง การบริหาร ความมั่นคง และความยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง
.
อีกทั้ง ยังมีขบวนการที่ประกอบด้วยกลุ่มการเมือง ทุนผูกขาด เจ้าหน้าที่รัฐ และองค์กรอิสระ ร่วมกันใช้อำนาจโดยมิชอบ บ่อนทำลายหลักนิติธรรมและรัฐธรรมนูญ จนส่งผลกระทบต่อเอกราชของประเทศ
.
พฤติกรรมที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นพฤติกรรมที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาประชาชนคนไทยทั่วทั้งแผ่นดินต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่า บรรดานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ไม่นำพาต่อการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของ น.ส.แพทองธาร กลุ่มรวมพลังแผ่นดินระบุว่า มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับผู้นำกัมพูชา ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญาหมวดความมั่นคง โดยอ้างว่าพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการสมคบคิดและการตอบสนองต่อผลประโยชน์ของ ‘อริราชศัตรู’ และเป็นการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน
.
นอกจากนี้ กลุ่มรวมพลังแผ่นดินยังวิจารณ์พรรคร่วมรัฐบาลว่า การยังคงสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์เช่นนี้ อาจเข้าข่ายร่วมกระทำความผิด และขัดต่อรัฐธรรมนูญเช่นกัน
.
กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน จึงเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล พร้อมเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศรวมพลังแสดงพลังคัดค้านการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และร่วมปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยยึดหลักคุณธรรม นิติธรรม และธรรมาภิบาล เพื่อนำประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป