แถลงการณ์ฉบับที่ 2 เหตุไฟไหม้รพ.รามาธิบดี ย้ำ!ไม่พบรังสีรั่วไหล
โรงพยาบาลรามาธิบดี ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เผยล่าสุดย้ายผู้ป่วยภายในรพ.จนปลอดภัย 191 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสูดเขม่าควันจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรที่เข้าไปช่วยเหลือ ขณะนี้ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
จากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา โดยได้มีการอพยพผู้ป่วยไปยังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดวันที่ 12 มีนาคมทางโรงพยาบาลรามาธิบดีมีการแถลงข่าวเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ดังนี้
จากกรณีที่มีกลุ่มควันและเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่ อาคารหลัก (อาคาร 1) ของโรงพยาบาลรามาธิบดีเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 และทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลได้ชี้แจงออกประกาศฉบับที่ 1 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น
ในวันนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการอพยพย้ายผู้ป่วยไปยังจนปลอดภัย จำนวนครบถ้วน 191 ราย โดยเป็นการอพยพย้ายภายในโรงพยาบาล จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสูดเขม่าควันจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรที่เข้าไปช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวได้รับการดูแลอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
ผลกระทบดังกล่าว ทำให้คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับผลกระทบในการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยา ฝั่งอาคารหลัก (อาคาร 1) โดยเบื้องต้นการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยาบางส่วนต้องย้ายไปให้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ จากข้อกังวลเรื่องรังสีรัวไหล ทางทีมวิศวกรรมได้ตรวจสอบแล้วไม่พบการรั่วไหลของรังสี สำหรับด้านการให้บริการทางพยาธิวิทยา ได้แก่ การบริจาคโลหิต ในขณะนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดลขอขอบคุณผู้ที่ประสงค์จะบริจาคแต่เนื่องจากหน่วยคลังเลือดมีพื้นที่ในการรับบริจาคโลหิตอย่างจำกัด อาจจะไม่ได้รับความสะดวก
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการหน่วยต่าง ๆ ภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ขั้น 1 – 9 ฝั่งใต้ ยังคงปิดให้บริการเพื่อทำการระบายกลิ่นและกลุ่มควันออกจากอาคารอย่างต่อเนื่องทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะดำเนินการลดจำนวนผู้ป่วย การผ่าตัด ผู้ป่วยที่ไม่เร่งด่วนออกไป ภายใน 1 – 2 วัน โดยหากสามารถดำเนินการได้ปกติจะมีการประกาศต่อไป
ต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบรรเทาสาธารณภัย กำลังจากตำรวจทหารที่เข้ามาช่วยเหลือรวมทั้งสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงที่พร้อมจะรับผู้ป่วยไปดูแลต่อและต้องขอบคุณบุคลากรของคณะฯทุกท่านที่ได้เข้ามาช่วยเหลือกันเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยทุกคนบุคลากรทุกท่านทำงานอย่างมืออาชีพตามแผนที่ได้ซ้อมไว้และยังช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจนสามารถกลับมาดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง