“นฤมล” ปลุกพลังพันธุ์กล้าธรรม กล้าชนทุกสนาม ลั่น เสนอชื่อ “ธรรมนัส” แคนดิเดตนายกฯ คนเดียว เพราะกล้าพูด กล้าชน กล้ารับผิดชอบ เพื่อประชาชน ไม่ดีแต่พูด ไม่ขายฝัน
เมื่อเวลา 14.00 น. พรรคกล้าธรรม จัดกิจกรรมเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วยผู้สมัคร สส. ของพรรคจากทั่วประเทศ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดย ศ.ดร.นฤมล กล่าวช่วงหนึ่งว่า พรรคกล้าธรรมไม่ใช่พรรคใหม่ แต่เป็นพรรคที่ดำเนินงานมาแล้วกว่า 5 ปี เดิมใช้ชื่อ “พรรคเศรษฐกิจไทย” ซึ่งเป็นพื้นที่การเมืองที่สมาชิกพรรคได้ร่วมต่อสู้ในสมรภูมิการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำพรรค และตนได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคกล้าธรรม” เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมปีที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า การเปลี่ยนชื่อพรรคไม่ได้เกิดจากการวางแผนล่วงหน้า แต่เป็นผลจากสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น พร้อมย้ำว่าพรรคยึดมั่นในความจงรักภักดีและการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด
ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า พรรคกล้าธรรมเริ่มต้นด้วย สส. เพียง 2 คน แต่ไม่เคยหยุดนิ่งในการขยายสมาชิกและสร้างความเข้มแข็งของพรรค จนปัจจุบันกลายเป็นพรรคการเมืองที่มีความพร้อมสูงสุด มีสมาชิกมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และเป็นพรรคแรกที่สามารถส่งผู้สมัคร สส. ครบทั้ง 77 จังหวัด ขณะที่มีเพียงไม่กี่พรรคการเมืองเท่านั้นที่สามารถส่งผู้สมัครได้ครบทั่วประเทศ พร้อมย้ำว่า พรรคกล้าธรรมมีนโยบายที่ชัดเจน ทำงานต่อเนื่อง และมีผลงานที่พิสูจน์ได้จริง ไม่ทำนโยบายขายฝัน ไม่หลอกประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการแจกเงินหรือโครงการที่ไม่สามารถทำได้จริง
นอกจากนี้ ศ.ดร.นฤมล ยังเปิดเผยถึงการตัดสินใจเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยระบุว่า ได้หารือกับ ร.อ.ธรรมนัส มาอย่างต่อเนื่อง จนเห็นตรงกันว่าพรรคต้องมีความชัดเจน เพื่อให้ประชาชนที่เลือกพรรคกล้าธรรมทราบอย่างแน่นอนว่า จะได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่นอมินีของใคร จึงขอประกาศเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของพรรค
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า เหตุผลที่พรรคกล้าธรรมพร้อมเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เพราะเป็นผู้นำที่ “กล้า” กล้าพูด กล้าเถียง และกล้ายืนหยัดพูดแทนพี่น้องเกษตรกรและประชาชน ทั้งในสภาผู้แทนราษฎร การประชุมคณะรัฐมนตรี รวมถึงการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งไม่ใช่รัฐมนตรีทุกคนจะกล้าออกไปรับฟังและแก้ไขปัญหา พร้อมเชื่อมั่นว่า ผู้นำที่มีความกล้าเช่นนี้จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศได้
“ต้องเป็นคนกล้าแบบนี้ ไม่ใช่แค่คนพูดเก่ง ดีแต่พูด ขายฝัน พวกเราคือพันธุ์พิเศษ พันธุ์กล้าธรรม ถ้าได้ร่วมกันรบเมื่อไหร่ เราไม่เคยแพ้ การชนะเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือความกล้า และครั้งนี้พวกเราต้องถามตัวเองว่า บ้าพอไหม กล้าพอไหม เพราะพวกเราเป็นคนกล้าธรรม เจอกันที่สภาฯ” ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้าย





