“ยุบสภาเปลี่ยนม้ากลางศึก แก้รัฐธรรมนูญแห้ว กลุ่มอดีตว่าที่ สว.เที่ยงธรรม ภปน. เนื้อหอม พรรคดังรุมจีบ แต่ยังขอรอดูจังหวะ”
การประกาศยุบสภาอย่างกะทันหัน ท่ามกลางกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังไม่ทันเห็นปลายอุโมงค์ ถูกนักวิเคราะห์การเมืองเปรียบเปรยว่าเป็นการ “เปลี่ยนม้ากลางศึก” ที่ทำให้ความพยายามปรับกติกาสูงสุดของประเทศต้องสะดุดลงอีกครั้ง ขณะที่สังคมยังตั้งคำถามถึงความจำเป็นและจังหวะเวลาของการตัดสินใจครั้งนี้

ตลอดช่วงที่ผ่านมา การแก้รัฐธรรมนูญถูกมองว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งสะสาง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่หมักหมมมานาน แต่เมื่อสภาถูกยุบ กระบวนการทั้งหมดก็ต้องหยุดชะงักโดยปริยาย กลายเป็นภาพซ้ำของการเมืองไทยที่ “เริ่มใหม่อยู่เสมอ แต่ไม่เคยไปถึงปลายทาง”
ในอีกด้านหนึ่ง การยุบสภากลับทำให้สนามเลือกตั้งเริ่มคึกคัก โดยเฉพาะการขยับตัวของ กลุ่มอดีตว่าที่สมาชิกวุฒิสภา ‘เที่ยงธรรม ภปน.’ ซึ่งเป็นเครือข่ายบุคคลจากหลากหลายวิชาชีพ มีสมาชิกกระจายอยู่ครบทุกภูมิภาคของประเทศ และเคยถูกจับตาในฐานะกลุ่มที่มีจุดยืนด้านคุณธรรมและความเป็นอิสระทางการเมือง
แหล่งข่าวทางการเมืองเปิดเผยว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ กลุ่มดังกล่าวตกเป็นเป้าหมายของพรรคการเมืองชื่อดังหลายพรรคที่พยายาม ทาบทามและจีบให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ด้วยเหตุผลสำคัญคือภาพลักษณ์ที่ “ไม่ผูกติดกับขั้วใดขั้วหนึ่ง” และมีฐานเครือข่ายในพื้นที่จริง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พรรคการเมืองต้องการอย่างยิ่งในสนามเลือกตั้งที่การแข่งขันสูง
อย่างไรก็ตาม แกนนำของกลุ่มอดีตว่าที่ สว.เที่ยงธรรม ภปน. ยังแสดงท่าที สงวนจุดยืน โดยระบุเพียงว่า อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ทางการเมือง และยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคใดในเวลานี้ ท่าทีดังกล่าวสะท้อนความระมัดระวังท่ามกลางบริบทการเมืองที่ผันผวน และความไม่ชัดเจนของทิศทางการปฏิรูปกติกาประเทศหลังการเลือกตั้ง
นักวิชาการด้านการเมืองมองว่า การที่กลุ่มอิสระลักษณะนี้ถูกหลายพรรคหมายปอง เป็นสัญญาณว่า พรรคการเมืองกำลังมองหาความชอบธรรมใหม่ และพยายามดึงบุคคลที่มีภาพลักษณ์ “สะอาด เป็นกลาง และเชื่อมโยงประชาชน” เข้ามาเสริมทัพ แต่ขณะเดียวกัน การตัดสินใจของกลุ่มว่าจะ “เลือกข้าง” หรือ “รักษาความเป็นอิสระ” ก็อาจส่งผลต่อสมดุลทางการเมืองหลังเลือกตั้งไม่น้อย
ท้ายที่สุด การยุบสภาครั้งนี้อาจช่วยเปิดเกมการเมืองรอบใหม่ แต่ก็ต้องแลกกับการที่การแก้รัฐธรรมนูญยังคง แห้วกลางศึก อีกครั้ง ขณะที่สายตาของสังคมกำลังจับจ้องว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะเป็นเพียงการเปลี่ยนตัวผู้เล่น หรือจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกติกาอย่างแท้จริงเสียที
ธนกฤต เจียรวัฒนากร
ประธานองค์การขับเคลื่อน เศรษฐกิจ









