วันที่ 7 พ.ย.68 เวลา 12.00 น. พลเมืองดีแจ้ง “ปวีณา” ช่วยเด็กน้อย 7 ชีวิต แม่ติดยาบ้างอมแงม และติดพนันออนไลน์ปั่นสล็อต ต้องทำยอดส่งยาบ้าจึงให้ลูกน้อยเดินยา และชักชวนคนอื่นมาเสพจนติด มีลูก 9 คนอาศัยอยู่ในเพิงพักนอนเบียดเสียด ไม่เลี้ยงดู ไม่มีข้าวให้กิน เด็กๆ ไม่ให้เรียนหนังสือ ปล่อยตามยถากรรม “ปวีณา” กล่าวว่า พลเมืองดีมาให้ข้อมูลขอความช่วยเหลือ แม่มีลูก 9 คน คนโต แยกออกไปมีครอบครัวเหลือ คนที่ 3 อายุ 15 ปีพาแฟนเข้ามาบ้านไม่ได้ทำงานอะไร เหลือน้องๆ อีก 6 คน อายุ 7-11 ปี คนสุดท้องอายุ 7 ปี พิการทางสมอง ลูกสาวคนที่ 2 อายุ 17 ปี สู้ชีวิตดิ้นรนทำงานรับจ้างหาเงินได้วันละ 300 บาท ต้องเลี้ยงทั้งบ้าน 10 ชีวิต ยาย แม่ และพี่น้อง ซ้ำยังถูกแม่บังคับข่มขู่เอาเงินไปทุกวัน ๆ ละ 200 บาท แถมแม่ติดเงินค่ายาบ้ากับเอเย่นต์ถูกตามทวงต้องหาเงินไปจ่าย ถ้าอิดออดจะถูกทุบตีทำร้ายจึงต้องจำยอม ทุกวันทำงานช่วงพักกลางวันลูกสาวคนที่ 2 ต้องหาข้าวไปส่งทำอาหารต้มโครงไก่ให้น้องกินประทังชีวิต และดูแลน้องชายคนสุดท้าย 7 ขวบที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชีวิตเด็กๆ ทั้ง 7 คน น่าสงสารมาก ตกอยู่ในอันตราย “ปวีณา” เชิญ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี นางสาวอารีย์รัตน์ นฤดมพงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สนง.พมจ.ปทุมธานี ประชุมที่มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนร่วมกันลงพื้นที่ทันที เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กๆ ทั้ง 7 คน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและนำแม่ไปบำบัด หากมียาเสพติดครอบครองก็จะต้องดำเนิคดีตามกฏหมาย ส่วนเด็กอีก 6 คนนั้น ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ จะส่งเจ้าโรงเรียนประจำเพื่อเข้าเรียนหนังสือ โดยขั้นตอนแรก กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะเข้ามาดูแลก่อน เด็กทุกคนจะได้รับการประเมินทั้งร่างกายและจิตใจ ตำรวจจะเร่งขยายผลจับเครือข่ายยาบ้านับวันก็จะใช้เด็กเล็กๆ ลงไปเป็นเครื่องมือทำมาหากินส่งยาต่อไปเด็กก็จะต้องติดยาหมดอนาคต ทั้งนี้ตำรวจจะต้องขยายผลจับกุมขบวนการเอเย่นต์ส่งยา เพราะทุกวันนี้ยาบ้าเข้าถึงเด็กเล็กแล้ว อนาคตประเทศชาติจะอยู่ตรงไหน “ปวีณา” ขอบคุณพลเมืองดีที่มาแจ้งให้ช่วยเหลือ และขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมบูรณาการร่วมกัน และขอประชาสัมพันธ์ว่าหากใครพบเห็นเด็กเข้าไปพัวพันยาเสติด รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือมูลนิธิปวีณาฯ ได้ทันที ที่เบอร์โทร 1134, 062 560 1636, 081 8901355, 098 478 8991
รายละเอียด
พลเมืองดีร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือน.ส.เอม (นามสมมุติ) เด็กสาวอายุ 17 ปี ชีวิตสุดรันทด!! มีพี่น้อง 9 คน เป็นคนที่ 2 ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงน้องชาย-หญิง 7 คน อายุ 7- 15 ปี และแม่ ยาย พี่สาว คนในบ้านรวม 10 ชีวิต น้องทุกคนไม่ได้เรียนหนังสือ น้องคนสุดท้องเป็นด.ช.อายุ 7 ปี พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่ติดยาเสพติดงอมแงม ไม่ทำงาน เล่นพนันออนไลน์ปั่นสลอต ไม่เคยสนใจเลี้ยงดูลูก แถมยังให้ลูกเล็กๆ ไปเดินยารับยาเสพติดตบตาเจ้าหน้าที่ และยังใช้รูปน.ส.เอม ตั้งเป็นโปร์ไฟล์ในเฟซบุ๊กของตัวเองเพื่อหลอกเงินคนที่คุยด้วยในโซเชียลเพื่อไปซื้อยาเสพติด
น.ส.เอม สู้ชีวิต เรียนจบแค่ป.5 เพราะต้องออกจากโรงเรียนมาเลี้ยงน้อง หางานทำเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงน้องกับคนในบ้านตั้งแต่อายุ 14 ปี ทำงานได้เงินเท่าไหร่แม่เอาเงินไปหมด ถ้าไม่ให้ก็จะถูกทุบตีทำร้าย จิกกระชากผม ตบตี กระทืบ ด่าหยาบประจาน ทุกวัน น.ส.เอม ออกไปทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด จะใช้เวลาช่วงพักกลางวันขอหัวหน้าขี่รถจักรยานยนต์กลับมาบ้านเพื่อมาหาข้าวปลาให้น้องทั้ง 7 คน และเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องคนเล็กที่พิการ จนบางครั้งตัวเองไม่ได้กินข้าวขอแค่ให้น้องๆ ได้กินอิ่มไม่ต้องอด ก่อนจะกลับไปเข้าทำงานตอนบ่ายโมงต่อ ซึ่งที่ทำงานอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก พลเมืองดีเมื่อรู้เรื่องราวชีวิตของน.ส.เอมแล้ว ไม่รู้จะช่วยเหลือน้องได้อย่างไร จึงนึกถึงมูลนิธิปวีณาฯ เป็นที่แรก พร้อมกับพาน.ส.เอม เข้าพบนางปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือ
น.ส.เอม กล่าวว่า “ตั้งแต่เล็กจนโตแม่ไม่เคยเลี้ยงดูหนูกับน้องเลย เราอยู่กันในเพิงพักที่เรียกว่า “บ้าน” หนูเห็นแม่เสพยาบ้ามาตั้งแต่จำความได้ ตั้งแต่เด็กหนูเคยเห็นตำรวจมาจับพ่อเสพยาบ้า แล้วพ่อบอกว่า “จำไว้นะ..อย่ามาเป็นแบบพ่อ” หนูจึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด “หนูไม่ใช่ลูกรักของแม่ แต่เป็นลูกชัง” เพราะหนูไม่ชอบที่เห็นแม่เสพยาบ้า เวลาแม่ใช้ให้หนูไปเอายาหนูไม่ยอมไปก็จะถูกทุบตี แต่หนูไม่ยอมทำเด็ดขาด!! หนูได้เรียนแค่ป.5 เพราะต้องออกจากโรงเรียนมาเลี้ยงน้อง เห็นเพื่อนๆ เขาได้ไปโรงเรียนกัน ก็คิดว่าไม่ไร เดี๋ยวทำงานหาเงินได้แล้วค่อยเรียน กศน. ก็ได้ หนูทำงานตั้งแต่อายุ 14 ปี ต้องเลี้ยงคนทั้งบ้าน ที่บ้านเคยถูกตัดไฟ ไม่มีไฟฟ้าใช้ หนูหาเงินได้ก็ไปขอต่อไฟจากข้างบ้านมาใช้ หนูจะต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ แม่จะโยนหน้าที่ทุกอย่างมาให้หนูคนเดียว ถ้าไม่จ่าย ไม่ให้เงินแม่ก็ถูกตบตี หนูกลัวมาก ทุกวันนี้หนูทำงานได้เงินวันละ 300 บาท แม่ข่มขู่ต้องให้แม่วันละ 200 บาทเพื่อเอาไปซื้อยาบ้า แม่เคยติดเงินค่ายาบ้ากับเอเย่นต์เกือบ 5,000 บาท ก็บังคับให้หนูไปจ่ายเงิน ไม่นานมานี้แม่ไล่หนูออกจากบ้านจนต้องไปอาศัยบ้านเพื่อนอยู่ เวลาแม่อยากได้เงินไปซื้อยาบ้าก็จะตามมาอาละวาดเอาเงินกับหนู ทุกวันนี้หนูห่วงน้องๆ ทั้ง 7 คนที่สุด เพราะแม่ไม่เคยหาข้าวให้น้องกิน ช่วงพักกลางวันหนูต้องรีบเข้าไปบ้านหาข้าวให้น้องกิน เช็ดตัวน้องที่พิการ ไม่อยากให้น้องต้องอยู่ในสภาพนี้ อยากให้ทุกคนได้ไปเรียนหนังสือ และขอให้น้องชาย 7 ขวบที่พิการได้รับการรักษาดูแลให้มีสภาพชีวิตที่ดีกว่านี้”
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้เชิญ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ นางดุสิตา นางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี นางสาวอารีย์รัตน์ นฤดมพงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี มาประชุมที่มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนร่วมกันลงพื้นที่บ้านของน.ส.เอม ย่านคลอง 6 ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อให้การช่วยเหลือน้องๆ ของน.ส.เอมทั้ง 7 คน ทันที
สภาพบ้านของน.ส.เอม เป็นเพิงพักริมถนนใช้ผ้าใบและสังกะสีทำเป็นฝาผนังผุพังทรุดโทรม รก และมีกลิ่นเหม็น ทั้ง 10 ชีวิต นอนรวมกันเบียดเสียด ห้องน้ำไม่มีประตู ใช้เพียงผ้าคลุมกั้นไว้ สภาพบ้านความเป็นอยู่ไม่มีความปลอดภัย ขณะที่เด็กๆ ออกไปวิ่งเล่นกันตามถนนเสี่ยงอันตรายรถชน ส่วนด.ช. 7 ขวบ น้องคนสุดท้องที่พิการนอนอยู่บนพื้นที่มีผ้าปูรองสกปรกไม่มีใครดูแลปัสสาวะ อุจจาระอยู่บนที่นอน
นางปวีณา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พมจ. บ้านพักเด็กฯ ปทุมธานี เข้าช่วยเหลือเด็กทั้ง 7 คน รับเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพ จากการตรวจสอบภายในบ้านพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าของแม่ที่เก็บไว้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวแม่และยายไปที่สภ.ธัญบุรี เพื่อทำการตรวจหาสารเสพติด พบว่าแม่ฉี่สีม่วงมีสารเสพติดในร่างกายและแม่รับสารภาพว่า เสพยาบ้าจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีข้อหา เสพยาบ้า ก่อนนำตัวส่งเข้ารับการบำบัดยาเสพติดต่อไป
นางปวีณา กล่าวว่า พลเมืองดีมาให้ข้อมูลขอความช่วยเหลือ แม่มีลูก 9 คน คนโตแยกออกไปมีครอบครัว เหลือคนที่ 2 อายุ 17 ปี หลังจบ ป.5 ไม่ได้เรียนหนังสือต่อเพราะต้องออกมาเลี้ยงน้อง ต้องเลี้ยงน้องอีก 7 คน และยาย 1 คน ไปทำงานได้เงินวันละ 300 บาท ต้องส่งให้ แม่ 200 บาท เอาไปเสพยา ถ้าไม่ให้ก็ถูกดุด่าทุบตีเหลือเงิน 100 บาท ไว้ซื้อกับข้าวให้น้องๆ กิน คนที่ 3 อายุ 15 ปี พาแฟนเข้ามาบ้านไม่ได้ทำงานอะไร เหลือน้องๆ อีก 6 คน อายุ 7-11 ปี คนสุดท้องอายุ 7 ปี พิการทางสมอง พบเมืองดี เล่าว่า แม่ติดยาตั้งแต่สาวถึงปัจจุบัน ติดพนันออนไลน์ ต้องหาเงินมาเล่นการพนัน เสพยา ลูกๆ ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ไม่มีเงิน แม่ให้ลูกไปเดินยา ทำยอด ได้เงินก็มาเสพยา ชีวิตเด็กน่าสงสารมาก ตกอยู่ในอันตราย จึงได้ประสาน พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี นางสาวอารีย์รัตน์ นฤดมพงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สนง.พมจ.ปทุมธานี ประชุมที่มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนร่วมกันลงพื้นที่ทันที เพื่อให้ตร.ตรวจสอบแม่นำไปบำบัด หากมียาเสพติดครอบครอง ตร.ก็จะต้องดำเนิคดีตามกฏหมาย ส่วนเด็กอีก 6 คนนั้น ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ จะส่งเจ้าโรงเรียนประจำเพื่อเข้าเรียนหนังสือ โดยขั้นตอนแรก กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะเข้ามาดูแลก่อน เด็กทุกคนจะได้รับการประเมินทั้งร่างกายและจิตใจ ตำรวจจะเร่งขยายผลจับเครือข่ายยาบ้านับวันก็จะใช้เด็กเล็กๆ ลงไปเป็นเครื่องมือทำมาหากินส่งยาต่อไปเด็กก็จะต้องติดยาหมดอนาคต ทั้งนี้ตำรวจจะต้องขยายผลจับกุมขบวนการเอเย่นต์ส่งยา เพราะทุกวันนี้ยาบ้าเข้าถึงเด็กเล็กแล้ว อนาคตประเทศชาติจะอยู่ตรงไหน “ปวีณา” ขอบคุณพลเมืองดีที่มาแจ้งให้ช่วยเหลือ และขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมบูรณาการร่วมกัน และขอประชาสัมพันธ์ว่าหากใครพบเห็นเด็กเข้าไปพัวพันยาเสติด รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือมูลนิธิปวีณาฯ ได้ทันที ที่เบอร์โทร 1134, 062 560 1636, 081 8901355, 098 478 8991.



