สืบนครบาล ทลาย “ขบวนการบริษัทม้า” แก๊งคอลเซ็นเตอร์! โยงบัญชีนิติบุคคลทั่วประเทศ ความเสียหายทะลุ 160 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ได้แถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ฐานความผิด เปิดบัญชีนิติบุคคลเพื่อใช้หลอกลวงประชาชนในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขบวนการนี้มีพฤติกรรมจดทะเบียนบริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดอย่างรวดเร็ว ภายในเพียง 1 วัน ผ่านระบบออนไลน์ จากนั้นนำไปใช้เปิดบัญชีธนาคารในนามนิติบุคคล เพื่อเป็นช่องทางรับเงินจากเหยื่อที่ถูกหลอกลวงในหลากหลายรูปแบบ เช่น การข่มขู่, หลอกลงทุน, หรือหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์
เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ผู้ต้องหามักจะ ทดสอบบัญชี ด้วยการโอนเงินจำนวนน้อยไปยังบัญชีมูลนิธิหรือองค์กรสาธารณกุศลที่กำลังเป็นที่สนใจ เมื่อมั่นใจว่าบัญชีใช้งานได้ตามปกติ ก็จะใช้รับเงินจากการหลอกลวงประชาชนอย่างเต็มที่ โดยมีผู้ทำหน้าที่ ถอนเงินจำนวนมากทันที จากธนาคารในห้างสรรพสินค้าก่อนที่บัญชีจะถูกอายัด และมีผู้ควบคุมผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง
จากการตรวจสอบในระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (TPO) พบว่ามีคดีที่เกี่ยวข้องกับบัญชีนิติบุคคลที่ใช้เป็นบัญชีม้า รวม 291 เรื่องทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 160 ล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มี 16 คดี มูลค่าเสียหายกว่า 39 ล้านบาท
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. เผยว่า การสืบสวนยังพบว่า พนักงานธนาคารบางรายมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยพบความผิดปกติในการ จองเงินสดจำนวน 5-6 ล้านบาท เพื่อรอให้กลุ่มผู้ต้องหามาถอนเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีแล้ว และธนาคารได้ดำเนินการให้ออกจากงาน โดยพนักงานเหล่านั้นไม่ได้เงิน แต่ได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบอื่น เช่น การรับประทานอาหารในร้านหรู หรือของใช้แบรนด์เนม
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ทำได้ง่าย โดยเฉพาะหากทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีการตรวจสอบเพียงเอกสารเบื้องต้น ทำให้ ขบวนการมิจฉาชีพฉวยโอกาสเปิด “บริษัทม้า” เป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันมีบริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดในประเทศไทยกว่า 800,000 แห่ง และคาดการณ์ว่า กว่า 60% ของบริษัทที่จดทะเบียนออนไลน์ อาจเข้าข่ายเป็นบัญชีม้า
ตำรวจจึง ย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง ในการทำธุรกรรมกับ นิติบุคคลที่เพิ่งจดทะเบียนใหม่ หรือมีที่ตั้งไม่ชัดเจน เช่น บ้านร้างหรืออาคารไม่มีผู้อยู่อาศัย และควรตรวจสอบข้อมูลบริษัทเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD Data Warehouse) เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่บริเวณชายแดนไทย
