เที่ยวครบ จบที่เดียว ไปสัมผัสธรรมชาติอันงดงาม ที่อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ จ.อุบลราชธานี
จังหวัดอุบลราชธานี มีผืนป่าอุดมสมบรูณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ไม่เป็นสองรองจังหวัดในภูมิภาคของประเทศไทย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติไม่ควรจะพลาดกับการเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ โดยเฉพาะในฤดูฝนท่านจะได้ชื่นชมธรรมชาติ ทั้งน้ำตกหลั่งไหลเป็นสายธารกว้างใหญ่เสียงดังกึกก้องทั่วราวป่า ต้นไม้สีเขียวขจีนานาพันธุ์ ผืนดินปกคลุมด้วยมอส เฟิร์น มีดอกไม้ป่านานาชนิด ต่างพากันออกดอกอย่างสมบูรณ์ เหมาะกับที่คนรักธรรมชาติ ควรไปสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
นายอำนาจ ขำทวีพรหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตั้งอยู่ในท้องที่ อำเภอโขงเจียม และอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี สภาพ พื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบและเนินเขาเตี้ยๆ โดยมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด ความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาว บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม ตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลาง มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ หรือ 80 ตารางกิโลเมตร
คำว่า “ตะนะ” จากการเล่าขานตามความเชื่อของชาวบ้านและประชาชนทั่วไป เดิมมาจากคำว่า “มรณะ” เนื่องจากบริเวณแก่งตะนะนี้มีกระแสน้ำไหลที่เชี่ยวกราก และมีโขดหินใหญ่น้อยอยู่ทั่วไป ตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านที่สัญจรทางน้ำหรือออกจับปลา มักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า “แก่งมรณะ” ตามแรงบันดาลจากสภาพของสายน้ำที่ไหลผ่านแก่งนี้ ซึ่งต่อมาเรียกว่า “แก่งตะนะ” จึงตั้งเป็นชื่ออุทยานแห่งชาติ
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบ เป็นเขาเตี้ยๆ มีแม่น้ำมูล แม่น้ำโขง และ ลำโดมน้อย ซึ่งเป็นแม่น้ำขนาดเล็ก ใกล้เคียงกับแม่น้ำมูล ไหลผ่าน เขื่อนสิรินธร มาบรรจบกับแม่น้ำมูล ที่หน้าเขื่อนปากมูล ความสูงโดยเฉลี่ยของพื้นที่ประมาณ 200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาบรรทัด สูงประมาณ 543 เมตร สภาพป่าทั่วไปเป็น ป่าเต็งรัง ป่าแพะหรือป่าแดง จะมีป่าดิบเฉพาะบริเวณริมห้วยขนาดใหญ่เท่านั้น สภาพพื้นที่ส่วนมากเป็นป่าสลับพลาญหินทราย และหินศิลา ส่วนดินเป็นดินลูกรัง ดินบรบือ และดินตะกอน จะมีทรายปะปนในดิน
ลักษณะภูมิอากาศ ด้วยพื้นที่อุทยานอยู่ในเขตมรสุม ฤดูร้อนจะไม่ร้อนจนเกินไป ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม อุณหภูมิประมาณ30 -35 ฤดูหนาวก็ไม่หนาวจัด ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม อุณหภูมิประมาณ 18 – 22 และฝนค่อนข้างตกชุกในฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน อุณหภูมิประมาณ 25 -30 จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปเที่ยวในช่วงปลายฤดูฝนเพราะอากาศจะร่มรื่นเย็นสบาย และพันธุ์ไม้ดอกขึ้นเป็นจำนวนมาก
นางสาวรวิภา จันสืบ จนท.บริหารงานทั่วไปและอำนวยการ ประจำอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ด้วย ได้กล่าวแนะนำการเดินทางสู่แก่งตะนะ ให้ผู้สื่อข่าวของเราฟังว่า อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อยู่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 90 กิโลเมตร รถยนต์สามารถเดินทางมาได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่1 จากจังหวัดอุบลราชธานีไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217 ผ่านอำเภอวารินชำราบ กิ่งอำเภอสว่างวีระวงศ์ ถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร แยกเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2173 ผ่านอำเภอสิรินธร ถึงสามแยกตลาดนิคม 2 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2296 สุดทางจะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
เส้นทางที่2 จากจังหวัดอุบลราชธานีไปตามเส้นทางเดียวกับเส้นทางแรก เมื่อถึงอำเภอพิบูลมังสาหารเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร 200 ปี เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2222 (ถนนพิบูลมังสาหาร-โขงเจียม) ก่อนถึงอำเภอโขงเจียม ประมาณ 4 กม. เลี้ยวขาวผ่านสันเขื่อนปากมูล ประมาณ 1.2 กม. ถึงสามแยก เลี้ยวซ้าย ถึงด่านแก่งตะนะ หรือจะ ผ่านเข้าตัวอำเภอโขงเจียม ข้ามสะพานโขงเจียมไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2173 ถึงบ้านหนองชาด ซึ่งห่างจากอำเภอโขงเจียม 6 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2296 สุดเส้นทางถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
นางสาวรวิภา จันสืบ จนท.บริหารงานทั่วไปและอำนวยการ ประจำอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ได้กล่าวแนะนำเพิ่มเติมว่า แหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ มีหลายแห่ง ประกอบด้วย
- แก่งตะนะ แก่งตะนะ เกิดจากแม่น้ำมูลไหลมาพบดอนตะนะ แล้วสายน้ำจะแยกเป็นสองสายไหลโอบทั้งสองด้านของดอนตะนะ ทำให้เกิดดอนตะนะ แล้วไหลมารวมกันอีกครั้งไหลลงมาทางแก่งตะนะ ซึ่งมีโขดหินมหึมาเป็นเกาะกลางน้ำขวางอยู่ทำให้เกิดเป็นแก่งตะนะขนาดใหญ่และสวยงาม
- สะพานแขวน สะพานแขวน เป็นสะพานแขวนคนเดินข้ามที่ยาวที่สุดในประเทศ ที่เชื่อมจากฝั่งที่ทำการกับดอนตะนะ ทั้งสองข้าง ยาวประมาณข้างละ 295 เมตร เป็นจุดชมวิวสองฝั่งแม่น้ำมูลเหนือแก่งตะนะและชมพระอาทิตย์ขึ้น – ตก ที่สวยงามเป็นอย่างมาก
- ดอนตะนะ เป็นดอนหรือเกาะที่เกิดขวางกลางแม่น้ำมูล มีเนื้อที่ประมาณ 225 ไร่ มีสะพานแขวนทอดข้ามดอน ทั้ง 2 ด้าน บนดอนตะนะ มีสภาพร่มรื่นและมีป่าสักตามธรรมชาติ มีสัตว์ป่าขนาดเล็กอาศัยอยู่ เช่น ไก่ป่า พังพอน งู กระรอก
- จุดชมชมพระอาทิตย์ขึ้น “ผาผึ้ง” ลานผาผึ้ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทางรถยนต์เข้าถึงเป็นลานหินปูนและเป็นพลาญหินทราย หน้าผาสูงชัน ยาวประมาณ 50 เมตร ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมกราคมมีไม้ล้มลุกนานาพันธุ์ ออกดอกสีสันสวยงามละลานตาโดยหน้าผาจะอยู่ทางทิศตะวันออก เหมาะแก่การดูพระอาทิตย์ขึ้น และสามารถมองเห็นสภาพป่า และภูมิประเทศของประเทศลาว
- ถ้ำพระ/ถ้ำภูหมาใน ถ้ำพระ/ถ้ำภูหมาไน อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเทียวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นชะง่อนผายื่นออกจากฝั่งแม่น้ำมูล ถ้ำกว้าง 45 เมตร ลึก 10 เมตร ภายในถ้ำพบสิลาจารึกและแผ่นศิวลึงค์ (ฐานโยนี) อายุราวพุทธศตววษที่ 12-13 สมัยพระเจ้าศรีมเหนทรวรมัน (เจ้าชายจิตรเสน) ส่วนศิลาจารึกตัวจริงได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานีและกรมสิลปากรได้จำลองแท่นสิลาจารึกประดิษฐานไว้แทน
- น้ำตกรากไทร น้ำตกรากไทร เป็นน้ำตกไหลลงมาตามหน้าผาผ่านรากไทรริมฝั่งแม่น้ำมูล มองดูคล้ายม่านมู่ลี่ ไหลลงสู่พื้นหินกระจายเป็นละออง เหมาะสำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติในช่วงเวลาสั้น พืชพรรณที่พบได้แก่ มอสส์ ไลเคน เฟิน เหมาะสำหรับการเดินชมธรรมชาติในช่วงเวลาสั้นๆ บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ใช้เส้นทางไปถ้ำพระ
- น้ำตกตาดโตน น้ำตกตาดโตน เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยตาดโตนตกจากชั้นแนวหินแนวโค้งคล้ายจอภาพยนต์ ลงสู่ที่ลุ่มเกิดเป็นแอ่งน้ำ ด้านบนเป็นพลาญหินกว้าง มีน้ำไหลผ่าน เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ และนั่งพักผ่อน เพราะบริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้ร่มรื่น และมีพืชพรรณไม้หลายชนิดให้ศึกษา โดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝน อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ประมาณ 5 กิโลเมตร
- ห้วยคำประสงค์ เป็นลำธารนน้องเล็กของอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ในช่วงหน้าฝน จะมีน้ำไหลจากป่าซึ่งเป็นแหล่งน้ำจากธรรมชาติ ลำธารจุดนี้เหมาะแก่เที่ยวชมสัมผัสธรรมชาติ พักผ่อนหย่อนใจ “อาบป่า” เติมพลัง ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยธรรมชาติ ฤดูการที่เหมาแก่การท่องเที่ยวช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน หรือตลอดช่วงฤดูฝน
- ลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ และ หากนักท่องเที่ยวต้องทราบข้อมูลต่างๆเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตู้ ปณ. 6 อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 34220 โทรศัพท์ : 0 4525 2722 – 3 โทรสาร : 0 4525 2723 (สอบถามข้อมูลทั่วไปและการเปิดแหล่งท่องเที่ยวได้ที่หมายเลขนี้) หรือทาง อีเมล์ [email protected] หรือ Facebook : อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ – Kaeng Tana National Park
Cr. ภาพ/ข้อมูล : นางสาวรวิภา จันสืบ จนท.บริหารงานทั่วไปและอำนวยการ ประจำอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
//////////////////////////////////////////// กิตติภณ / รายงาน.