น้ำท่วมอยุธยาระทม ต้องพายเรือพาผู้สูงอายุไปหาหมอ-ปลิงอาละวาด
.
วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ยังคงระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม่น้ำน้อยและคลองสาขาหลายแห่งมีระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยราว 10 เซนติเมตร และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
.
ที่ชุมชน ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมเต็มพื้นที่ของชุมชน ระดับน้ำสูง1-เมตร สภาพบ้านเรือนหลายหลังเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูง น้ำท่วมจวนจะถึงพื้นบ้าน บางหลังน้ำท่วมจนถึงพื้นบ้าน ส่วน ถนนทางเข้าชุมชนถูกน้ำท่วม ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกจากชุมชนมาที่ถนนสายหลัก ในการไปทำงาน ซื้อข้าวของ รวมถึงผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
.
นางเพลินตา มากศรี อายุ 71 ปี กล่าวว่า น้ำท่วมในชุชนมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้วน้ำขึ้นทุกวันใช้ชีวิตประจำวันอย่างอย่างลำบาก เพราะการสัญจรไปมาเข้าออกหมู่บ้านต้องพายเรือ ซื้ออหารสดอาหารแห้ง และที่สำคัญ ต้องพายเรือออกมารับและส่งพี่สาวอายุ 80 ปี ที่ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตามเวลาที่หมอนัด โดยจะมีพี่สาวอีกคนที่อยู่ใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำท่วมหนักเมือนกัน เอารถมารับไปส่งที่โรงพยาบาลอีกต่อหนึ่ง
.
ส่วนชาวบ้านในชุมชนติดกับคลองหงส์ ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ในหมู่ที่ 5 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบในชุมชนที่อยู่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมสูง 30–40 ซม. ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำเข้าออก และถูกฝูงปลิงควายเกาะกัดดูดเลือด
.
น.ส.มนชนก ปัทมดิลก ชาวบ้าน เล่าว่า ในชุมชนน้ำล้นตลิ่งน้ำเข้ามาได้ประมาณ 4 วัน ต้องเดินลุยน้ำเก็บของเดินในชุมชน ถูกปลิงกัดจนผวา พบปลิงจำนวนมากเกาะอยู่ตามทางเดิน ต้องคอยจับใส่ขวดเพื่อนำไปทิ้ง
.
นายสุธีร์ สุขพัฒน์ เลขานายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะเข้าตรวจสอบ เตรียมสร้างสะพานไม้ให้ชาวบ้านใช้สัญจร และประชาสัมพันธ์ให้รีบทายาเมื่อถูกปลิงกัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
.
#ข่าวอยุธยา