แลนด์บริดจ์โครงการ 1 ล้านล้าน จะไปโลดหรือสะดุด 20 เครือข่ายอาชีพจี้รัฐ เร่งแก้ FTA ชายแดน ก่อนทุ่มงบมหาศาล
รายงานพิเศษ
ในการประชุมร่วมระหว่าง สภาเที่ยงธรรม กับ ภาคีเครือข่ายปฏิรูปสถาบันนิติบัญญัติ (ภปน.) ครั้งที่ 3 ณ โรงแรม
แบงค็อกมิดทาวน์ โดยมีตัวแทนจาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพทั่วประเทศเข้าร่วม เสียงสะท้อนที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เพียงแค่ความหวังกับโครงการใหญ่ของรัฐบาล แต่เต็มไปด้วยคำถามต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรมในกระบวนการบ้านเมือง
วิเชียร ศรีสุด “เสียงประชาชนถูกปิดกั้น”
นายวิเชียร ศรีสุด ประธานสภาเที่ยงธรรม ในฐานะประธานภปน. เปิดใจว่า ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายสาขาอาชีพที่ตั้งใจลงสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อพัฒนาประเทศ กลับต้องผิดหวังจากกระบวนการคัดเลือกที่ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใส หลายคนเชื่อว่ามีการ “ฮั้ว” จนทำให้บุคลากรคุณภาพสอบตกโดยไม่เป็นธรรม
“จนถึงวันนี้ มีการฟ้องร้องมากกว่า 500 คดีเพื่อทวงความเป็นธรรม แต่เกือบปีครึ่งแล้ว เรื่องก็ยังไม่คืบหน้า สุดท้ายผู้สมัครเหล่านี้อาจต้องฟ้องเรียกคืนค่าสมัครจากกกต.ด้วยซ้ำ” นายวิเชียรกล่าว พร้อมย้ำว่ากระบวนการที่ไม่ชอบธรรมเช่นนี้คืออุปสรรคสำคัญต่อการปฏิรูปประเทศ
ธนกฤต เจียรวัฒนากร “เสียงเศรษฐกิจจากสุรินทร์”
ด้านนายธนกฤต เจียรวัฒนากร ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรม-ไทย และประธานองค์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดสุรินทร์ ย้ำว่าประชาชนทุกสาขาอาชีพต่างเผชิญปัญหาหนักหน่วง โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ที่ปิดกิจการไปแล้วนับหมื่นราย เกษตรกรก็ต้องเจอ “ฝันร้าย” จากความตกต่ำของราคาพืชผลทางการเกษตร สืบเนื่องจากการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-จีน ที่ทำให้สินค้าจีนทะลักเข้ามาทุ่มตลาด จนผลไม้และผักไทยขายไม่ออก
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากนโยบายภาษี 2.0 ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งซ้ำเติมการส่งออกของไทย และปัญหาความไม่ปลอดภัยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ประชาชนยังเผชิญอยู่ทุกวัน
แลนด์บริดจ์ ความหวังหรือความเสี่ยง?
สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลเร่งผลักดัน นายธนกฤตชี้ว่า แม้จะมีศักยภาพในการยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางการขนส่งเชื่อมมหาสมุทรอินเดีย-แปซิฟิก แต่หากการบริหารจัดการไม่รอบคอบ ผลเสียอาจตกอยู่กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้า
ข้อดีแลนด์บริดจ์
– เปิดประตูการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
– ดึงดูดต่างชาติ สร้างโครงสร้างพื้นฐานยกระดับโลจิสติกส์ไทย
– สร้างงานและกระจายรายได้สู่ภูมิภาค
ข้อเสียความเสี่ยงแลนด์บริดจ์
– ภาระหนี้สาธารณะมหาศาล หากการลงทุนไม่คุ้มค่า
– ความเหลื่อมล้ำ หากผลประโยชน์ตกอยู่กับกลุ่มทุนใหญ่
– ผลกระทบต่อชุมชน ชาวประมง เกษตรกร และสิ่งแวดล้อม
– ปัญหาความมั่นคงชายแดน หากยังไม่ได้รับการแก้ไข
ทางออกที่ประชาชนต้องการ
นายธนกฤตเสนอว่า หากรัฐบาลต้องการให้โครงการนี้เกิดประโยชน์สูงสุด ควร
1. เร่งแก้ปัญหาฐานราก ฟื้น SMEs และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก FTA และสินค้าจีน
2. สร้างมาตรการคุ้มครองสินค้าเกษตรไทย อุดหนุนและสร้างมาตรฐานการแข่งขันที่เป็นธรรม
3. จัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เสริมกำลังรักษาความปลอดภัยและส่งเสริมการค้าชายแดนอย่างโปร่งใส
4. เปิดเวทีรับฟังทุกฝ่าย ให้ประชาชนในพื้นที่โครงการมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่เสียงของกลุ่มทุน
5. กำกับความโปร่งใส ตรวจสอบการใช้งบประมาณทุกขั้นตอน ป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
โครงการแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้านบาทอาจเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทย หากรัฐบาลเดินหน้าอย่างโปร่งใสและใส่ใจประชาชน แต่หากยังปล่อยให้ปัญหาความไม่เป็นธรรม การทุจริต และความเหลื่อมล้ำกัดกิน ความฝันใหญ่ก็อาจกลายเป็นฝันร้ายซ้ำเติมเกษตรกร ผู้ประกอบการ และคนไทยทั้งประเทศ
