“น้ำท่วม” เป็นสิ่งที่คนอยุธยาถูกยัดเยียดว่าต้อง “เคยชิน”
▪️คนที่ไม่ถูกน้ำท่วมมองว่า
– ปกติก็ท่วมทุกปีอยู่แล้วจะเรียกร้องทำไม
– ทำไมไม่ทำบ้านให้สูงๆให้พ้นน้ำ จะได้ไม่เดือดร้อน
– ทำไมไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่นจะได้ไม่ถูกน้ำท่วมทุกปี
▪️อ่านและทำความเข้าใจในโพสต์นี้ให้จบนะคะ
– เกิดมา 1 ชีวิต เราสมควรเห็นน้ำท่วมบ้านตั้งแต่ลืมตามาดูโลกจนแก่ตายไปหรือคะ ?
– คำว่าน้ำท่วม มันคือความลำบากที่ไม่อาจใช้ชีวิตปกติได้แบบคนอื่น ต้องใช้ชีวิตแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ
– บ้าน ปชช ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นลักษณะใต้ถุนสูงค่ะ แต่ต่อให้สูงแค่ไหนก็ไม่รอดค่ะ
– การย้ายไปอยู่ที่อื่น การดีดบ้านให้สูงขึ้นใช้เงินจำนวนมากค่ะ ปชช หาเช้ากินค่ำไม่สามารถทำแบบนั้นได้
น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ มันคือกฎธรรมชาติ แต่สิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่ธรรมชาติ มันคือ “การบริหารจัดการน้ำ” ที่ไม่เคยก้าวข้าม “ความล้มเหลว”
จากปิง วัง ยม น่าน ไหลรวมลงเขื่อนเจ้าพระยา ก่อนชีจะเสิร์ฟตรงมาอยุธยา แล้วก็มัดรวมไว้เป็น“พื้นที่รับเวรรับกรรม” ทุกปี
ถ้าไม่มีกฎหมายข้อไหนระบุว่า พื้นที่อยุธยาเป็นพื้นที่รับน้ำ คนที่ต้องรับน้ำสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง
ถ้าหากทุ่งนาที่เคยมีไว้ผันน้ำช่วยแบ่งเบาคนฝั่งริมน้ำ ไม่สามารถผันน้ำเข้าไปได้ เพราะหากทุ่งรับน้ำเต็ม ยามวิกฤติเราจะไม่มีตัวช่วยหน่วงน้ำช่วยคนในเมือง
คำถามคือ แล้วคนในพื้นที่รับน้ำที่ต้องแบกรับน้ำแทนจนหลังจะหัก ได้รับการดูแล เยียวยา ช่วยเหลือ อย่างไร ?
▪️ทำไมเราต้องถูกทำให้ “ชิน” กับน้ำที่ท่วม 2–4 เดือน/ปี ?
▪️ทำไมบ้านที่ถูกกัดกร่อน พังพินาศ กลับได้ค่าชดเชยเพียง 9,000 บาท? เงินที่เฉลี่ยออกมา คือ วันละ 100 บาท เพื่อแลกกับชีวิตที่จมน้ำ
▪️บ้านพังหลังน้ำลด → ให้ไปซ่อมเอง
ชีวิตพังซ้ำวนไปวนมา → แต่การบริหารยังเหมือนเดิม
ในปี 2025 ที่เทคโนโลยีล้ำหน้าไปไกลมากจนแทบตามไม่ทัน แต่การบริหารจัดการน้ำยังเหมือนเดิม ?
เราไม่เคยปฏิเสธ “น้ำท่วม”
แต่สิ่งที่เราพยายามเรียกร้องคือ การบริหารที่เห็นหัวประชาชน ไม่ใช่ปล่อยให้เราก้มหน้ารับกรรมไปปีแล้วปีเล่า
ถามตรง ๆ … นี่มันคือ “น้ำท่วม” หรือคือ “ความล้มเหลว” ที่พวกคุณทิ้งไว้ให้คนอยุธยา แบกเอาไว้ทุกปี?
#น้ำท่วม68 #น้ำท่วมอยุธยา #น้ำท่วมรอบที่3