สองภาคีร่วมสะท้อนเสียงประชาชน เน้นแก้เศรษฐกิจ-ชายแดน-สังคม เร่งด่วน รอ “นายกฯ ใหม่” แก้ปัญหาประเทศ
รายงานพิเศษ
การโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เกิดขึ้น สะท้อนความคาดหวังของประชาชนต่อผู้นำรัฐบาลที่จะเข้ามารับผิดชอบต่อวิกฤตหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ปัญหาชายแดน หรือปัญหาสังคมที่เรื้อรังมานาน ล่าสุด ผู้แทนจากภาคประชาชนและภาคธุรกิจ ได้ออกมาให้ความเห็นต่อทิศทางการบริหารประเทศของผู้นำคนใหม่ โดยต่างย้ำว่าประเด็นเร่งด่วนเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
นายวิเชียร ศรีสุด ประธานเครือข่ายปฏิรูปสถาบันนิติบัญญัติ และประธานสภาเที่ยงธรรม (ภาคประชาชน) เปิดเผยว่า ประชาชนทั่วประเทศกำลังเผชิญภาระค่าใช้จ่ายสูง ขณะที่รายได้กลับไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ จึงเป็นภารกิจด่วนที่สุดของรัฐบาลใหม่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ปัญหาความมั่นคงชายแดนที่กระทบกับทั้งการค้าและความปลอดภัย ก็ต้องได้รับการดูแลอย่างรอบคอบ “ผมมองว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ควรยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่การเมืองเป็นที่ตั้ง” นายวิเชียรกล่าว
ด้าน นายธนกฤต เจียรวัฒนากร ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรม จังหวัดสุรินทร์ ให้ความเห็นว่า ความท้าทายสำคัญของรัฐบาลใหม่คือการสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีศักยภาพทางการค้าและอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ปัญหาสังคม เช่น ความเหลื่อมล้ำ และการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและสาธารณสุข ต้องได้รับการผลักดันอย่างจริงจัง “เราไม่ได้คาดหวังสิ่งใดเกินจริง เพียงขอให้รัฐบาลใหม่ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล และทำงานโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งภายในและต่างประเทศ” นายธนกฤตกล่าว
แม้ทั้งสองภาคีจะสะท้อนปัญหาคนละมิติ แต่สิ่งที่ตรงกันคือ ความต้องการให้ผู้นำรัฐบาลคนใหม่มุ่งมั่นทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและทันต่อเวลา ท่ามกลางความหวังของสังคมว่าการเมืองครั้งนี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สร้างประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง