เมื่อเวลา07.00น.วันที่15ส.ค.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สืบสวน ด บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. ประกอบด้วย พ.ต.ท.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายรพีภัทร จริงสันเทียะอายุ 40 ปี ที่บ้านเลขที่457/157 ตรอกวัดจันทร์ใน แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯพร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืนลูกกรดไทยประดิษฐ์ ขนาด.22 LR
1กระบอก
2.ปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้องแล้ว
1 กระบอก
3.กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 35 นัด กระสุนปืนขนาด9มม. 4นัด
4.กระสุนปืน ขนาด.22 ที่ใช้แล้ว136ปลอก
5.สมุดบัญชี ธนาคารออมสิน สาขาศูนย์การค้ากรีนเพลส พลาชา ชื่อบัญชี นายรพีภัทร 1 เล่ม
6.เศษกระดาษลัง เขียนคำว่า นักรบ ลายพราง ลงท้าย1883จำนวน 1 ป้าย และ ไวท์บอร์ด เขียน
คำว่า นักรบ ลายพราง ตัวจริง บ.ช. ลงท้าย 9918 เท่านั้น บ.ข. 9918 เท่านั้น นักรบลายพราง 9918
7.ชุดสั่นโกประกอบวุธปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 4ชิ้น
8.อุปกรณ์ลดเสียง 1แท่ง
9. ชุดคันรั้ง ลูกเลื่อน จำนวน 5 ชิ้น
10.แม็กกาซีนอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 2ชิ้น
11.บ่อแม็กกาซีนไม่ทราบขนาด 1ชิ้น
12.ลำกล้องปืนไม่ทราบขนาด 2ชิ้น
13.กล้องปืนไม่ทราบ ขนาดรีดเกลียวสำเร็จรูปบรรจุภายในท่อ PVC สีฟ้า อยู่ภายในกล่องพัสดุ1ชิ้น
14.เวอร์เนียร์ 1ชิ้น และไม้บรรทัด เหล็ก1 ชิ้น
15.เครื่องเชื่อมเหล็ก 1เครื่อง
16.เครื่องเจียรไฟฟ้า 1 เครื่อง
17.สว่านไร้สาย 1เครื่อง
18. เครื่องเจียรไฟฟ้า แบบแบตเตอรี่1เครื่อง
19[.เครื่องเจียรไฟฟ้า แบบแบตเตอรี่ 1เครื่อง
20.ถังที่เก็บเสียงทดลองยิงปืน 1เครื่อง
21.เครื่อง มิลลิ่ง ขนาดเล็ก1เครื่อง
22.กล่องกระดาษเพื่อใช้ส่ง พัสดุคละขนาด เขียนที่อยู่ผู้รับแล้ว 6กล่อง กล่องเปล่า 32 ใบ
(ของกลางลำดับที่ ๑-๒๒ ตรวจพบภายในห้องเช่าของนายรพีภัทรฯ)
23.กระสุนปืน ขนาด9 มม. 32 นัด และ ขนาด9 จำนวน 3นัด (ตรวจพบภายใน
รถยนต์ ซูซูกิ เซเลริโอ สีเทา ทะเบียน3กศ5399 กรุงเทพมหานคร
25.โทรศัพท์มือถือ ซัมซุง 1เครื่อง ตรวจค้นพบ
ภายในตัวนายรพีภัทรฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบและนำส่งคืนแก่ผู้ถูกจับด้วยตนเอง
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการ สืบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ค “นักรบ ลายพราง” มีพฤติกรรมการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านช่องทางออนไลน์ จากการสืบสวนพบข้อมูลอันน่าเชื่อได้ว่านายรพีภัทร จริงสันเทียะ คือผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าวจริง และมีพฤติการณ์ในการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยพิสูจน์ทราบได้ว่า นายรพีภัทรฯ ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 1306ซอยจันทร์ 37 แขวงทุ่งวัดคอน เขตสาทรกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอหมายค้นบ้านหลังดังกล่าวข้างต้นต่อศาลาอาญากรุงเทพใต้ ศาลอนุญาตตามหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.
86/2568ลงวันที่14ส.ค.68โดยให้ค้นบ้านหลังดังกล่าวในวันที่ 15ส.ค.
ต่อมาเมื่อวันที่15ส.ค.เวลา07.00น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าตรวจ ค้นบ้านหลังดังกล่าวตามหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ พบ นายรพีภัทรฯ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองดูแล บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้แสดงหมายค้นดังกล่าว ข้างต้นเพื่อให้ นายรพีภัทรฯ ดูและรับทราบดีแล้ว และ นายรพีภัทรฯ ยินดีเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าตรวจค้นบ้านหลังเลขที่ดังกล่าว โดยก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ให้นายรพีภัทรฯ ดูจนเป็นที่พึ่งพอใจแล้ว ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมานายรพีภัทรฯ ได้นำตรวจค้น
รถยนต์ ซูซูกิ ซึ่งจอดอยู่ริมถนนหน้าทางเข้าบ้านนายรพีภัทรฯ ผลการตรวจค้นพบของกลางลำดับที่23 อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าวหลังจากนั้นนายรพีภัทรฯ ได้นำตรวจค้นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านพักและนายรพีภัทรฯ รับว่าเป็นผู้เช่าห้องเอง ผลการตรวจค้นพบของกลางรายการที่ 1-22 อยู่ภายในห้องเช่าดังกล่าว สอบถาม นายรพีภัทรฯ รับว่าของกลางดังกล่าวข้างต้นเป็นของตนจริง โดยตนเป็นผู้ที่จำหน่ายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่สามารถไข้ยิงเครื่องกระสุนปืนได้และจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนด้วยอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมีเครื่องมือในการดัดแปลงเพื่อประกอบ ชิ้นส่วนต่างๆ ให้เป็นอาวุธปืน ในชั้นจับกุม นายรพีภัทร ได้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่าอาวุธปืนและ เครื่องกระสุนปืน รวมทั้งอุปกรณ์ประกอบอาวุธปืน และเครื่องมือสำหรับดัดแปลงอาวุธปืนที่ตรวจพบภายในห้องเช่าและ รถยนต์นั้น เป็นของตนเองจริง โดยตนจะสังซื้ออุปกรณ์ประกอบอาวุธปืนหลายๆอย่างมาจากช่องทางออนไลน์เพื่อนำมา ประกอบเป็นชุดลั่นไกและอาวุธปืน รวมทั้งเครื่องกระสุนปืน เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ซื้อตามคำสั่งซื้อจากกลุ่มซื้อขายอาวุธปืน ผ่านช่องทางออนไลน์
ผู้ต้องหารับด้วยว่า ประกอบอาชีพดังกล่าวมาประมาณ10ปี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวมาแล้ว เนื่องจากว่าผู้ต้องหามีความถนัดในเรื่องนี้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่า”มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่งนำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” และนำตัว นายรพีภัทร พร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงาน สอบสวน สน.วัดพระยาไกร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป