เทศบาลนครอุบลราชธานี จัดกิจกรรมแสดงพลังความรักชาติ ความสามัคคี และความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ บริเวณถนนคนเดิน เทศบาลนครอุบลราชธานี นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เป็นประธานนำคณะผู้บริหารเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล ประชาชนในพื้นที่ และผู้ประกอบการถนนคนเดิน เข้าร่วมกิจกรรมแสดงพลังความรักชาติ ความสามัคคี และความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
กิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักและกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชน ให้ตระหนักถึงคุณค่าของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของประเทศ พร้อมทั้งเสริมสร้างความสามัคคีในสังคมไทย และแสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป
ในงานมีการจัดกิจกรรมร้องเพลงชาติร่วมกัน พร้อมชูธงไตรรงค์อย่างพร้อมเพรียง เสียงร้องเพลงชาติที่กึกก้องไปทั่วบริเวณสร้างบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ ผู้ร่วมงานหลายคนต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีธงชาติ และบางส่วนถือธงเล็กโบกไปมาอย่างร่าเริง บริเวณโดยรอบถูกประดับประดาด้วยธงและไฟสีสันสวยงาม เพิ่มความคึกคักให้แก่ถนนคนเดินในค่ำคืนนี้
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรวมพลังของพี่น้องชาวไทย แต่ยังเป็นการส่งกำลังใจให้แก่บุคลากรแนวหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ทุ่มเทเสียสละเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนทุกคน
นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทั้งในด้านวัฒนธรรม ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี และการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของความสงบสุขในสังคม
บรรยากาศตลอดงานเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นของผู้เข้าร่วม ทั้งชาวอุบลราชธานีและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาชม ต่างหยุดถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอเก็บไว้เป็นความทรงจำ บางครอบครัวพาเด็ก ๆ มาร่วมโบกธงและร้องเพลงชาติไปพร้อมกับผู้ใหญ่ เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในความเป็นไทยที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
กิจกรรมในค่ำคืนนี้ไม่เพียงสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของพลังความรักชาติและความสามัคคีของพี่น้องชาวไทย ที่พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างกันเพื่อประเทศชาติ ตอกย้ำให้เห็นว่าความรักและความสามัคคีคือพลังสำคัญที่จะนำพาไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน.
