ตม.สนามบิน รุกต่อยอดช่อง นร.จีน รับปิดเทอมชาติอื่นๆ หลังพบแห่เที่ยวไทยเพิ่ม
ตามที่ ตม.สนามบิน ได้จัดกิจกรรม ” ฉู่เจี้ย หยู่ไคว่ ชาแนล ” จัดช่องทางพิเศษรับเด็ก ๆ นักเรียนจีน และครอบครัวที่ใช้ช่วงปิดเทอม เลือกมาเที่ยวประเทศไทย ในช่วงเดือน ก.ค. – ก.ย. ตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ ไปแล้วนั้น
ล่าสุด 20 ก.ค.2568 พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ได้เปิดเผยว่า หลังจาก พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ธนิศ ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม. ได้ให้นโยบายอำนวยความสะดวกกลุ่มนักเรียนต่างชาติที่ปิดเทอมและมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงนี้ ซึ่งเป็นฤดูกาล Low Season
พบว่า มีเด็ก ๆ จากชาติอื่น ๆ เริ่มเดินทางเข้ามาพร้อมครอบครัวเป็นจำนวนมากขึ้น เนื่องจากตรงกับช่วง Summer โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา โดยถึงแม้ว่าสัดส่วนจะน้อยกว่าเด็กนักเรียนและผู้ปกครองชาวจีน แต่เมื่อรวมจำนวนกันก็ถือว่า มีปริมาณที่สูงใกล้เคียงกับตัวเลขเด็กนักเรียนและผู้ปกครองชาวจีน
โดยจากสถิติเด็กนักเรียนและผู้ปกครองชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวไทย คิดอัตราเฉลี่ยวันละประมาณ 1,300 คน โดยเป็นเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 12 ปี ราว 600 คน ที่เหลือเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ในขณะที่เด็กนักเรียนและผู้ปกครองสัญชาติอื่นอยู่ในสัดส่วนวันละประมาณ 1,000 คน เป็นเด็ก ๆ อายุต่ำกว่า 12 ปีราว 500 คน
การจัดช่องทางพิเศษรับเด็กนักเรียนต่างชาติและครอบครัวเช่นนี้ เป็นการแยกกลุ่มต่างชาติที่มีวัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยวออกจากกลุ่มต่างชาติที่เฝ้าระวังอย่างชัดเจน โดยกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองจะมี 4 ลักษณะสำคัญ คือ
1. มีการเดินทางเป็นครอบครัว
2. มีแผนการท่องเที่ยวที่ชัดเจน
3. มีแผนเดินทางกลับและที่พักที่ชัดเจน
4. ไม่มีประวัติการใช้ฟรีวีซ่าแบบ Visa Run
โดยจะลดเวลารอคิวในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น จากเดิมรอคิวนานสุดประมาณ 40 นาที เหลือเพียงประมาณ 15 นาที
นอกจากนั้น กลุ่มต่างชาติที่เป็นผู้สูงวัย สตรีมีครรภ์ และคนพิการ ก็จะจัดช่อง priority รองรับด้วยเช่นกัน
ซึ่งหลังจัดกิจกรรมนี้ ได้มีการประเมินผลจากการสัมภาษณ์ผู้เดินทาง พบว่า มีเสียงตอบรับที่ดี และมีเสียงสะท้อนถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในไทยที่ดีขึ้นด้วย เพียงแต่มีข้อเรียกร้องให้ปรับแก้การลงระบบข้อมูล TDAC ล่วงหน้าให้สะดวกขึ้น ซึ่งจะแจ้งให้ศูนย์เทคโนโลยี สตม. แก้ไขปรับปรุงต่อไป
ส่วนผู้โดยสารคนไทยทุกวัย ทุกเพศ ทุกคน มีช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติและช่องตรวจหนังสือเดินทางไทยรองรับ เป็นความสำคัญลำดับแรก ใช้เวลารอคิวประมาณ 5 นาทีเป็นอย่างช้า
อย่างไรก็ตาม ตม.สนามบิน ยังคงเพิ่มความเข้มในการคัดกรอง กลุ่มต่างชาติที่เข้าข่ายเสี่ยงต่ออาชญากรรม และกลุ่มต่างชาติสีเทาเช่นเดิม โดยนับแต่ ม.ค.2568 เป็นต้นมา มีการปฎิเสธการเข้าเมืองไปแล้ว กว่า 10,000 ราย ซึ่งการจัดกิจกรรมเช่นนี้ เป็นเพียงลมส่งให้การท่องเที่ยวบ้านเราคึกคักขึ้นในช่วงซบเซาในฤดูกาลนี้เท่านั้น ภารกิจหลักยังยึดความมั่นคงเช่นเดิม พล.ต.ต.เชิงรณฯ กล่าว