ศึกศรัทธาเดือด! วัดโรงบ่มปะทะโรงเจ ฝ่ายโรงเจขัดขืนคำสั่งศาล จุดไฟเผารถ-ยิงปิงปอง ตำรวจคุมสถานการณ์ จับกุม 3 ราย
เพชรบูรณ์ – เช้าวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุวุ่นวายรุนแรงบริเวณ วัดโรงบ่ม หมู่ที่ 3 ตำบลยางงาม อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ขณะเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ฝ่ายปกครอง ไวยาวัจกรวัด และชาวบ้านกว่า 100 คน เข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารโรงเจที่รุกล้ำพื้นที่วัดตามคำสั่งศาล เพื่อคืนพื้นที่สำหรับก่อสร้างโบสถ์และกำแพงวัด ตามมติของคณะกรรมการวัดโรงบ่ม ปฏิบัติการดังกล่าวกลายเป็นจุดปะทุความขัดแย้งระหว่างฝ่ายวัดและฝ่ายโรงเจ นำไปสู่การปะทะกันอย่างดุเดือด
ฝ่ายโรงเจที่นำโดย นางบุษบา เหง้าสาลี ผู้นำและผู้ก่อตั้งสำนักโรงเจที่ตั้งมานานกว่า 15 ปี ปฏิเสธการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่ากำลังยื่นคำร้องขอระงับการบังคับคดี และอยู่ในกระบวนการไกล่เกลี่ยกับทางศาล อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่าง นายบุญส่ง ทรัพยะเกษตริน ไวยาวัจกรวัด และฝ่ายโรงเจไม่ประสบผล
เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เมื่อฝ่ายโรงเจจุดไฟเผารถแม็คโครของผู้รับเหมา ใช้ขวดแก้ว ผ้าชุบน้ำมัน ระเบิดปิงปอง และหนังสติ๊กยิงใส่เจ้าหน้าที่และรถจักรกล จนเกิดเพลิงไหม้ กระจกแตกเสียหาย โชคดีที่เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลนาเฉลียงเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ได้ทันก่อนลุกลาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 3 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย สวมเสื้อของสำนักโรงเจ ขณะกำลังก่อเหตุ และถูกนำตัวส่งดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจภูธรนาเฉลียง เบื้องต้นแจ้งข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และทำให้เสียทรัพย์
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ มีกลุ่มชาย 5-6 คน สวมเสื้อกั๊กปักคำว่า “4 เสาหลักพิทักษ์แผ่นดิน” เข้าพบผู้กำกับ สภ.นาเฉลียง เพื่อเจรจาขอให้หยุดปฏิบัติการ แต่ถูกปฏิเสธ โดยตำรวจยืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปตามคำร้องขอจากวัดและชาวบ้าน พร้อมแนะนำให้กลุ่มดังกล่าวไปประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลุ่ม “4 เสาหลักฯ” เข้ามาปะปนกับผู้ปฏิบัติธรรม โดยแต่งกายเป็นลูกศิษย์โรงเจแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็จะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและร่วมต่อต้านอย่างเปิดเผยใน ในนามองค์กร ในลักษณะ ให้ วัด ในฐานะเจ้าของที่ หยุดการกระทำที่รุนแรงต่อ ผู้มาปฏิบัติธรรม ในสำนักโรงเจ
เหตุพิพาทดังกล่าวสืบเนื่องจากข้อขัดแย้งระหว่างวัดโรงบ่มและสำนักโรงเจที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 และนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลในปี 2563 โดยศาลมีคำสั่งให้ฝ่ายโรงเจรื้อถอนและขนย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 5 ปี ต่อมามีการนัดไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ซึ่งจำเลยที่ 1 และ 2 รวมถึงบริวารได้แสดงเจตนาออกจากพื้นที่และยกสิ่งปลูกสร้างให้วัด แต่ภายหลังกลับมีการขัดขืนจนเกิดเหตุรุนแรงในครั้งนี้
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมพื้นที่ไว้ได้แล้ว พร้อมวางกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ป้องกันเหตุซ้ำรอย ขณะที่ทางวัดเตรียมดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อออกหมายบังคับคดีอีกครั้ง
เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างความศรัทธา ศาสนา และสิทธิในที่ดิน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างรอบด้าน ทั้งด้านกฎหมาย และการไกล่เกลี่ยในเชิงสังคมเพื่อป้องกันการเผชิญหน้าในอนาคต.
ข้อมูล/จาก/ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์