ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ สกัดจับแรงงานเถื่อนซุกกระบะตู้ทึบกว่าครึ่งร้อยชีวิต
วันนี้ (23 มิ.ย.68) พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ร่วมบูรณาการกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามายังพื้นที่ตอนใน จึงได้สั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 สภ.ทองผาภูมิ และ ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ ทำการตั้งจุดตรวจ บริเวณ จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จว.ก.จ.
กระทั่ง 05.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน บริเวณ จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ สังเกตพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ขับมาจาก อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ พบ นาย กัมพล ผิวละออ อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน 3ฒพ 2565 กรุงเทพมหานคร ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวนั้น นายกัมพลฯ ได้ขับรถยนต์หลบหนีออกไปจากจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงคาดว่ารถยนต์คันดังกล่าวน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายบรรทุกมาด้วย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้สกัดจับรถยนต์คันดังกล่าวไว้ จนกระทั่งถึง บริเวณ ม.2 บ้านเสาหงษ์ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมรถยนต์คันดังกล่าวไว้ได้ หลังจากนั้นได้ทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวอย่างละเอียด พบ กลุ่มบุคคลคล้ายต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 40 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ และไม่สามารถแสดงเอกสารที่ทางราชการออกให้ได้ จึงควบคุมตัวกลุ่มบุคคลต่างด้าวไว้ทั้งหมด
จากการสอบถามผ่านล่ามฯ ทราบว่า กลุ่มบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายเดินทางมาจาก จ.มัณฑะเลย์ และ จ.ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านบ่อญี่ปุ่น เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานที่ กทม. และบางส่วนจะเดินทางไปทำงานต่อที่ประเทศมาเลเซีย โดยเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าคนละ จำนวน 16,000 – 70,000 บาท (จ่ายเมื่อถึงปลายทาง) แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำประวัติ และนำตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดส่ง สภ.ทองผาภูมิ เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
