เมื่อเวลา 13.39 น. วันที่ 18 มิ.ย. 68 ร.ต.อ.อรรถนพ แสงจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ. ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตในบ่อน้ำ ขนาด 30 X 100 เมตร ในพื้นที่นิคม 304 หมู่ที่ 12 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ
หลังจากรับแจ้ง จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี จุดศรีมหาโพธิ แพทย์จากโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบรถ จยย. Honda wave สีขาวดำ ทะเบียน1 กฌ 1860 ปราจีนบุรี จอดอยู่บริเวณริมบ่อน้ำ และรองเท้าแตะแบบสวม สีเทา 1 คู่ อยู่ข้างล้อหน้ารถ จยย. ในบ่อน้ำพบร่างผู้เสียชีวิตลอยคว่ำหน้าอยู่ในบ่อ มีต้นกกลอยอยู่รอบศพผู้เสียชีวิต สภาพศพสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ใส่เสื้อสีดำ อยู่ห่างจากก็บอกประมาณ 2 เมตร
ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากบ่อน้ำเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจชันสูตร จากการตรวจสอบหลักฐานพบกระเป๋าสตางค์ พร้อมบัตรประชาชน เป็นของ น.ส.ศิริลักษณ์ เพชรสังหาร อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 666/201 หมู่ที่ 5 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ ตามร่างกายไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 วัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้หน่วยกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต
นายสุรัตน์ กลิ่นบำรุง (คนใส่แว่น) กล่าวว่า มีคนพม่าวิ่งมาบอกที่ร้านว่าพบศพน่าจะเป็นคนไทย เค้าเจอตั้งแต่เช้าแล้วและเค้าบอกว่าเค้าไม่อยากยุ่งกลัวมีปัญหากับพวกของเค้าด้วยพอมาถึงก็เห็นกับผู้เสียชีวิตและก็โทรแจ้งร้านอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เป็นตลาดเปิดใหม่
นายชูศรี คนงานก่อสร้างชาวเมียนม่า กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงพักกินข้าว มีคนบอกว่ามีคนตายผมก็เลยมาดู คนเห็นตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ไม่มีใครอยากยุ่ง ก็เลยโทรหาเจ้าหน้าที่ดีกว่า รถ จยย.ก็จอดอยู่แบบนี้ตั้งแต่ 8 โมงเช้า
นายปิยะวัฒน์ ดวงกองเงิน อายุ 46 ปี มีบ้านตรงข้ามบ้านผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปกติเมื่อวานน้องเขาก็อยู่บ้าน และจะออกไปทำงานตอนเย็น ผมก็ไม่ได้อยู่บ้านตอนที่น้องเขาออกไปทำงาน ผมก็ไปรับแฟนที่ 304 น้องเขาออกไปทำงานประมาณ 6โมง – 1 ทุ่ม น้องจะเริ่มงานประมาณ 2 ทุ่ม ปกติอยู่กับลูกชาย 2 คน ลูกชายอายุน่าจะประมาณ 14 -15 ปี ปกติเมื่อเขาเลิกงานแล้วเขาก็ซื้อกับข้าวมาจากตลาดแล้วก็เข้าบ้าน ก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะไปฆ่าตัวตาย ก็ไม่แน่ใจว่าเขามีเหตุอะไร เพราะน้องเป็นคนเงียบเงียบ เขาไม่ค่อยคุยกับใคร พื้นเพน้องก็เป็นคนกบินทร์บุรี ผมรู้สึกตกใจ เพราะก็เคยอยู่โรงงานเดียวกันเขาเจออะไรบ้างก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง
เวลาต่อมามีญาติผู้เสียชีวิตมาติดต่อเพื่อขอดูศพ ยืนยันว่าผู้ตายเป็นน้องสาวของตนเองจริงผู้ตายได้ไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในย่านนิคมฯ ถามญาติบอกว่าผู้ตายเครียดเกี่ยวกับหนี้สิน อาจคิดสั้นจึงตัดสินใจกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตายในสระน้ำดังกล่าว
