จากกรณี ที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ น้องโอปอ คนเดิม ได้โพสต์คลิปวีดีโอของกล้องหน้ารถ เป็นลักษณะของที่มีรถเก๋งสีดำคนหนึ่ง ปาดเข้าด่านจ่ายเงินค่าทางด่วน ( ด่านบางแก้ว ถนนกาญจนาภิเษก สายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ขามุ่งหน้าบางปะอิน ) ก่อนที่จะมีวิวาททะกันเกิดขึ้น ชายที่ขับรถเก๋งจึงลงมาจากรถก่อนเดินไปอีกฝั่งเปิดรถก่อนหยิบอาวุธก่อนเหน็บที่หลัง และเดินมาทางฝั่งคนขับรถกระบะและมีการโต้เถียงกัน ก่อนที่ฝ่ายแฟนสาวของฝั่งรถกระบะจะมีการเตือนสติฝ่ายแฟนหนุ่ม ให้คิดถึงหน้าลูก
โดยทางผู้ใช้ เฟสบุ๊ค ดังกล่าวลงข้อความว่า เวลา 22.52 น.ใครผ่าน ด่านเก็บตังเมกะบางนา ทางนั้นพอมีกล้องหน้ารถที่จับภาพป้ายทะเบียน รถโตโยต้า วีออส คันสี ดำรบกวนช่วยน้องทีค่ะ พอดีจะไปแจ้งความพอดีโดนเขาเอาปืนออกมาข่มขู่จะยิง ปาดหน้าเขาเข้ามาแท้ ๆ ต้องเป็นคนแบบไหนกันว่าจะปล่อยผ่านแล้ว นะเสือกมาชูนิ้วกลางใส่ก่อน แล้วยังเอาปืนลงมาขู่จะยิงอีกทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนปาดเขาเข้ามาต้องโตมาในสังคมแบบไหนกันอ่ะ เขาอุสายอมละพอเขาเอาจริงขึ้นมาทำไมหนีหางจุกตูดอ่ะในเมื่อเป็นคนเอาปืนลงมาขู่จะยิงเขาก่อน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เวลา 22.52 น.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00น.วันที่ 13 มิ.ย.2568 น.ส.คฑามาศ โมรานิล อายุ 27 ปี พร้อมด้วยแฟนหนุ่ม เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อให้ติดตามคนขับรถเก๋งสีดำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถาม น.ส.คฑามาศ โมรานิล อายุ 27 ปี แฟนสาวรถกระบะคันดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนั้น เธอและแฟนกำลังเดินทางกลับจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อที่จะกลับเข้าบ้านที่จังหวัดนนทบุรี พอถึงบริเวณหน้าด่านบางแก้ว รถเก๋งคันดังกล่าว ก็ขับขึ้นมาปาดหน้ารถของแฟนเธอ โดยก่อนหน้านี้รถตนกับรถของอีกฝ่ายไม่ได้มีการขับปาดหน้าหรือมีเรื่องกันมาก่อนเลย โดยหลังจากที่เขาขับปาดหน้ารถ แฟนตนได้เต๊าะไฟเตือนเขาเพราะว่าหลังรถมีของเยอะมากและรถมันหนักกลัวว่ารถจะเบรกไม่อยู่แล้วไปชนเขา และอีกและฝ่ายน่าจะไม่พอใจเรื่องนี้ จึงลดกระจกรถลงมา และชูนิ้วกลางให้พวกเธอแล้วก็มีการด่าทอพวกเธอ ด่าบุพการีและด่าคำหยาบ แล้วแฟนเธอจึงลดกระจกลงและด่ากลับไป ในจังหวะที่แฟนของเธอด่ากลับ อีกฝ่ายได้ลงจากรถ แล้วเดินไปฝั่งซ้ายของคนขับ ที่รถของเขาและมีการไปเอาอาวุธปืนออกมา และมีการขึ้นลำปืนเอาไว้ก่อนที่จะนำปืนไปเหน็บไว้ที่ด้านหลังของกางเกง ก่อนที่จะเดินมาหาแฟนของเธอ เธอพยายามที่จะขอโทษไปแล้ว โดยเธอ กล่าวว่าขอโทษและขอให้มันจบได้ไหม แต่อีกฝ่ายก็ยังยืนด่าอยู่พักหนึ่ง จนมีพี่ รปภ. ที่ด่านเดินมาช่วยห้าม ก่อนที่เธอจะพูดเสริมไปว่าขอให้เรื่องมันจบอยู่แค่นี้และให้เขาขึ้นรถไปจ่ายตังแล้วแยกย้ายกัน เพราะเธอก็กลัวเพราะเขามีอาวุธแต่พวกเธอไม่มีอะไรเลย หลังจากนั้นเขาจึงเดินกลับไปที่รถ แต่ก่อนจะขึ้นรถ เขาดีมีการผูกเสื้อขึ้นเพื่อให้เห็นอาวุธปืนที่เหน็บไว้ด้านหลัง แล้วเขาก็ขึ้นรถไปจ่ายเงิน เธอก็คิดว่าจะจบอยู่แค่นั้น แต่มันไม่ใช่ เพราะพอเขาจ่ายเงินเสร็จ เขาก็ขับรถเข้าซ้ายจอดรอพวกเธอ ตอนนั้นเธอได้กำชับกับแฟนไปแล้วว่าให้มันจบอยู่แค่นี้ หลังจากนี้ให้แยกย้ายแล้วกลับบ้านเลย แต่พอจังหวะจะออกรถเพื่อที่จะกลับบ้านเขาก็เดินมาขวาง หน้ารถ ก่อนที่จะด่าทอ คำหยาบคาย เธอ จึงเอ่ยขอโทษไปอีกรอบ เพราะไม่อยากมีปัญหา แล้วเธอจึงบอกให้แฟนขับรถออกไปเลย แต่อีกฝ่ายก็รีบวิ่งขึ้นรถแล้วขับตามพวกเธอมา ก่อนที่จะขับตีคู่ขึ้นมาประกบข้างรถ แล้วก็เปิดกระจกรถมาด่า แฟนเธอก็โมโหเหมือนจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้วก็เลยถามกลับไปว่า จะเอาจริงๆใช่ไหม จะเล่นจริงๆใช่ไหม แล้วแฟนเธอก็เลยแกล้งเหมือนหาอะไรบางอย่างในรถ เพื่อที่จะคุยอีกฝ่ายว่ามีอาวุธเช่นกัน เขาก็เลยคิดว่าพวกเธอมีของเหมือนเขา เขาก็เลยขับรถเหยียบหนี แฟนของตนเองขับรถตามไป จนไปถึงบริเวณทางแยกที่จะออกไปทางอ่อนนุช อีกฝ่ายตบรถเข้าซ้าย ด้านแฟนของเธอจึงตบรถเข้าตาม แล้วบอกว่าให้ลงมาคุยลงมาเคลียร์กัน อีกฝ่ายไม่ยอมจึงหักรถออก ไปทางด้านที่แฟนของเธอขับ ก่อนที่จะเปิดกระจกรถออกมาพูดอะไรบางอย่างแต่เธอไม่ได้ยินแล้วก็เหยียบหนีไปเลย เธอจงบอกแฟนว่าไม่ต้องตามไปแล้ว ให้เป็นเรื่องของคดีความ เพราะเดี๋ยวจะไปแจ้งความ ในวันนี้ที่ สภ.บางแก้ว เบื้องต้นยืนยันจะเอาเรื่องอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด เพราะเหตุการณ์ของอีกฝ่ายมันอุกอาจมาก มันไม่สมควร สุดท้ายแล้วตนอยากฝาก ถึงอีกฝ่ายว่า ให้เขา ใจเย็นลงกว่านี้ มันไม่สมควรที่จะชักปืนออกมาแบบนี้ อีกอย่างหนึ่งที่มันไม่สมควรคือเขาอ้างว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ ตนก็เลยคิดว่าถ้าเขารู้จักกับคุณใหญ่คนโตจริงๆถ้าไปแจ้งความแล้ว เราจะเอาผิดอะไรเขาได้
***********************************
อัญมณี คงสินธ์ / เจริญพงษ์ นาคขำ จ.สมุทรปราการ

