หน้าแรกทั่วไปกัน จอมพลัง พาครอบครัวเหยื่อร้องคดีอาทำร้ายหลานไร้ความคืบหน้าเสี่ยงติดเชื้อราขึ้นสมอง

กัน จอมพลัง พาครอบครัวเหยื่อร้องคดีอาทำร้ายหลานไร้ความคืบหน้าเสี่ยงติดเชื้อราขึ้นสมอง

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ สภ.บางแก้ว นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พาครอบครัวผู้เสียหาย นางพาธิดารัตน์ กิตติกูล อายุ 47 ปี (แม่ของผู้เสียหาย) และนาย ธนากร กิตติกูล อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เพื่อเร่งรัดคดีที่หลานถูกอาแท้ๆ ทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนเกือบเสียชีวิต แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแม้จะแจ้งความและตรวจร่างกายแล้วก็ตาม
พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว ระบุว่า เมื่อเช้าได้รับโทรศัพท์จากผู้บังคับการให้มาดูแลเรื่องนี้ หลังจากเอารายละเอียดของสำนวนมาตรวจสอบ เหตุเกิดวันที่ 16 เมษายน เวลาประมาณสามทุ่ม เบื้องต้นทางตำรวจได้สอบปากคำทางผู้เสียหาย และได้ส่งใบชันสูตรให้กับทางโรงพยาบาลแล้ว ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ทางคุณหมอยังไม่ได้ลงรายละเอียด เมื่อสักครู่ตนได้ให้ทางรองผู้กำกับ โทรไปเช็คอีกครั้ง ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าน่าจะเป็นวันนี้หรือก็พรุ่งนี้ถึงจะลงรายละเอียดผลให้ได้ หลังจากได้ใบชันสูตรมาแล้วตนจะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา และรวบรวมสำนวนส่งอัยการ ส่วนวันนี้ทางผู้เสียหาย มีประเด็นไหนไม่สบายใจ อยากจะให้การเพิ่มเติม วันนี้จะสอบปากคำให้ละเอียด ตนคิดว่าไม่น่าจะเกินอาทิตย์หน้าแต่ถ้าใบชันสูตร ออกมาปนจะรีบสรุป ว่าจะแจ้งข้อหาอะไรได้บ้าง อยากให้สบายใจว่าทางตำรวจจะไม่ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุลอยนวล เบื้องต้นมีการเจรจาเมื่อวันที่ 10 ครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นน้องของทั้งฝั่งคุณพ่อ และมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาเป็นกรรมการด้วย และเห็นว่าวันนั้นคุยกันจบ และเห็นว่าเป็นญาติพี่น้องกันเลยให้ไปเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แต่ด้วยกฎหมายก็จะต้องดำเนินคดี การเจรจาเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการประกอบสำนวน ถ้ามีการเยียวยาเป็นเหตุให้ศาลเห็นอาจจะลดโทษ ซึ่งเป็นคนละส่วน ทางตำรวจยืนยันจะทำหน้าที่เต็มที่
กัน จอมพลัง บอกว่า ทางคุณแม่ทักมาขอให้ตนช่วย ลูกชายถูกอาทำร้ายโดยไม่มีสาเหตุ จากคลิปที่ตนเห็น ไม่คิดว่าจะเป็นคนในครอบครัวทำร้าย กันรุนแรงขนาดนี้ ในคลิปจะเห็นว่าอาเรียกน้องไปนั่ง แต่น้องไม่ได้นั่ง อาเลยจับน้องเหวี่ยงไปที่พื้น น้องโดนเอาหัวโขกที่พื้นปูนหลายครั้ง หลังจากนั้นเหวี่ยงน้องลงไปที่น้ำเน่า และมีการโยนของลงไปใส่น้องข้างล่าง ตัวน้องอยากจบไม่อยากมีปัญหา เลยมีผู้สวนไปบ้าง อากระโดดตามลงไปและจับหัวน้องกดลงไปในน้ำ ซึ่งน้องกินน้ำเน่าไปหลายอึก และกดลงไปค่อนข้างนาน ที่น้องรอดมาได้เพราะ เพื่อนๆและชาวบ้านช่วยกันห้าม ซึ่งตนไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดภายในครอบครัว ซึ่งแม่แจ้งความตั้งแต่เดือนเมษายน แม่อยากจะเอาเรื่องเพราะมีการพูดคุยกันมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
นาย ธนากร กิตติกูล อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเป็นไรเดอร์เลิกงานวิ่งกลับบ้าน ตนเห็นเขานั่งอยู่ตนสวัสดีแต่ไม่ได้สวัสดีเขา เขาเรียกตนไปหาแต่ตนไม่ได้เข้าจากนั้นก็เป็นไปตามคลิป ตนไม่ได้ยกมือไหว้เขาแต่ก็ยังเห็นเขาเป็นอา ตนไม่แน่ใจว่าเขาเมาหรือไม่แต่ตอนที่เขาทำตนเค้าบอกว่าไม่เมา ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหากันเพราะตนก็ใช้ชีวิตปกติ ตนทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เขาไม่เคยมีเรื่องกับครอบครัวตน ตนไม่เข้าใจว่าเหตุผลที่เขาทำตนเพราะถ้าตนไม่ยกมือไหว้เขา ก่อนหน้านี้เคยเคารพ ตนเคยได้ยินเขาพูดถึงพ่อตนในทางที่ไม่ดี และหาว่าเด็กอย่างตนจะเรียนไม่จบ และเสียดสีพ่อแม่ตน ตนเคยได้ยินเลยรู้สึกไม่ดี ก็เลยคิดว่าไม่ไหว้ดีกว่า ต้นเคยมาเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็บอกให้ปล่อยเขาไม่ต้องไปฟังหรือไม่ก็ไม่ต้องไปไหว้เขา ให้ใช้ชีวิตปกติ แม่ยังบอกอีกว่าอย่างน้อยเขายังเป็นอายังเป็นน้องชายของพ่อ หลังเกิดเหตุยังไม่มีคำขอโทษ ตอนนั้นได้ไปตรวจกับทางนิติเวช หมอบอกว่าเนื่องจากตนโดน จับกดน้ำต้องรอดูระยะฟักเชื้อ ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ช่วงที่เกิดเรื่องตนเครียด เพราะตนออกไปทำงานไม่ได้โทรศัพท์ก็พัง ก่อนหน้านี้มีจะไปเริ่มงานที่หนึ่ง แล้วเขามีโครงการในการส่งเรียนให้ตรงกับสายงานที่ทำ ตอนนั้นตนได้ตกลงกับที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว แล้วมาเกิดเรื่องวันที่ 16 ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บ จนถึงตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้ทำงาน ปัจจุบันตนขับไรเดอร์อย่างเดียว ตนไม่ขออะไรมาก แค่อยากให้รู้ว่าบ้านเมืองยังมีกฎหมาย
นางพาธิดารัตน์ กิตติกูล อายุ 47 ปี (แม่ของผู้เสียหาย) บอกว่า ตนมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ เขาเคยมีทำร้ายร่างกายภรรยาเขา ซึ่งก่อนเกิดเรื่องนี้ภรรยาเขาเคยมาเล่าให้ฟัง ตอนน้องไปหาหมอรอบแรกหมอมีนัดให้ไปเจาะเลือด ทุกๆอาทิตย์ เพื่อหาเชื้อ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ตรวจเลือดแล้วเพราะไม่พบเชื้อ แต่หมอให้ดูอาการต่อเนื่อง เพราะไม่รู้ว่าน้ำเน่าที่เข้าไปในร่างกายแล้วจะไปเพาะเชื้อเมื่อไหร่ ถ้าโชคดีอาจจะไม่ติดเชื้อ ต้นกับเขาไม่เคยมีปัญหากัน ก่อนเกิดเรื่องยังคุยกันปกติ มีพักหลังเขามานั่งดื่มแล้วก็มานั่งด่าที่บ้าน น้องไปได้ยินแล้วเอามาบอก ตนเลยบอกน้องว่า ยังไงเขาก็ร้องพ่อ ถ้าเขาไม่รับไหว้ก็ไม่ต้องไหว้ แล้วถ้าเขาว่าอะไรก็ให้เดินผ่านไปไม่ต้องสนใจ อาจเป็นเหตุผลนี้ที่เขาไม่พอใจ เพราะแต่ก่อนน้องนับถืออาคนนี้มาก และเขาเคยสอนน้องว่าถ้ามีปัญหาอะไรอย่าทำคนในครอบครัว ครั้งแรกที่มาไกล่เกลี่ยเขาไม่ยอมรับ เขาบอกว่าเค้าไม่ได้กดน้ำ หัวอกคนเป็นแม่พอเห็นคลิปแล้วรับไม่ได้ ตนเลี้ยงลูกมาก็ไม่เคยตีถึงขนาดนี้ ก่อนเกิดเรื่องบ้านอยู่ใกล้กันหลังคาติดกันเลยแต่ตอนนี้ย้ายออกมา เช่าบ้านอีกหลังหนึ่งได้ปีกว่าๆ อยากให้คุณกันช่วยเรื่องคดี เพราะคดีไม่คืบหน้า อยากให้คนผิดได้รับผิด ครั้งที่สองที่มาไกล่เกลี่ยก็ไม่ได้คุยกันเพราะตำรวจให้แยกกันคุย ทางร้อยเวรแจ้งว่าอีกฝ่ายยอมรับผิดและขอไกล่เกลี่ย ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันเขาก็ยังไม่มาคุย
***********************
อัญมณี คงสินธ์ / เจริญพงษ์ นาคขำ จ.สมุทรปราการ

Ad 1
Ad 2