วันอังคาร, สิงหาคม 5, 2025
หน้าแรกทั่วไปอัจฉริยะ นำหลักหลักฐานยื่นให้ผู้การปากน้ำ เอาผิดแก๊งอุ้มรีดเงินขบวนการเว็บพนัน และคอลเซ็นเตอร์

อัจฉริยะ นำหลักหลักฐานยื่นให้ผู้การปากน้ำ เอาผิดแก๊งอุ้มรีดเงินขบวนการเว็บพนัน และคอลเซ็นเตอร์

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมายื่นหลักฐานเอกสารสำคัญ ให้กับ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเอาผิดกับองค์กรอาชญากรรมมากกว่า 30 คน ที่ตั้งแก๊งอุ้มรีดเงินขบวนการเว็บพนัน และคอลเซ็นเตอร์ ได้ทรัพย์สินไปมากกว่า 30 ล้านบาท โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจตำแหน่ง รองสารวัตรสอบสวน สน.พญาไท และน้องสาว บอย ยูนิตี้ กับพวกร่วมขบวนการ โดยมีการทำหมายศาลปลอม อ้างตำแหน่ง ผช.รมต.กระทรวงยุติธรรม และมีการกล่าวถึง รมต.กลาโหม / นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน / นายประภัตร โพธสุธน / กระทรวงยุติธรรม / ดีเอสไอ / กรมการปกครอง
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า คดีนี้ไม่ความไม่ชอบมาพากล เนื่องจากว่า นายบูรพา ปานหุ่น หรือ “ออม” ได้มาพบตน ยื่นยันว่าเขาได้มีการกระทำความผิดจริง และองค์กรของเขามีจำนวนทั้งสิ้น 60 คน ไม่ใช่ 23 คน ประเด็นของเขาที่มาร้องตน คือ เขาได้มีการซื้อข้อมูลมาจาก รองสารวัตรสอบสวน สน.พญาไท ท่านหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องของ ขบวนคอลเซ็นเตอร์ หรือขบวนการที่ทำเว็บพนันออนไลน์ แล้วก็เขาถือว่าตัวเขาเองอ้างตัวเองเป็นเด็กของ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท่านทวี สอดส่อง หรือมีการบอกว่าเป็นคนที่หาเงินให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในคดีหมูเถื่อน ก็คือ ท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน รวมทั้ง นายประภัตร โพธสุธน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังมีการกล่าวอ้างถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งในวันที่บุคคลนี้มาพบตน ก็ได้มีพูดต่อหน้าบุคคลอีกหลายฝ่ายที่ร้านอาหาร และเราได้ดูภาพที่ได้มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรมนี้ ในคดีนี้จากการที่เราได้มีการสอบปากคำเขาด้วยและทนายความเขาก็ได้มาพบตนด้วย ก็พบว่าข้อหาที่ตั้ง ร่วมกันกรรโชก ตนมองว่าพฤติกรรมของเขา มันไม่ใช่ข้อหาร่วมกันกรรโชก เนื่องจากว่ามีการกระทำเกิน 3 คนขึ้นไป และที่สำคัญที่สุดคือการบังคับขู่เข็นผู้เสียหาย เป็นลักษณะของการที่ หากผู้เสียหายไม่ยินยอมมอบทรัพย์สินให้ ก็เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงยินยอมมอบทรัพย์สินไป ไม่ใช่เป็นการกรรโชก แต่เป็นการร่วมกันปล้น ที่สำคัญที่สุดคือมีการใช้หมายศาลซึ่งเป็นหมายศาลปลอม ซึ่งตัว นายบูรพา อ้างว่า ไดรับมาจากรองสารวัตรท่านนี้ ว่าเป็นคนทำข้อมูลให้ ดังนั้น จากแชทไลน์ก็ดีที่มีการพูดคุยสนทนาระหว่างรองสารวัตรท่านนี้กับผู้เสียหาย ร่วมทั้งความเชื่อมโยงที่มีการอ้างถึงการโอนเงินค่าข้อมูลสองแสนห้าให้กับสารวัตรท่านนี้ ตนก็ไม่ทราบว่าชุดคณะกรรมการสอบสวนของท่านผู้การได้สืบสวนถึงไหน และเขาก็ได้ทำหนังสือยืนยันมาถึงตน ฉบับนึงเป็นหนังสือที่ตนแนบมาให้อยู่ในสำนวนนี้ให้กับท่านผู้การในวันนี้ เขายืนยันว่า รองสารวัตรคนนี้ ได้มีการนำข้อมูลบุคคล จำนวน 8 คน สถานที่ 22 แห่ง และก็รถยนต์ที่ผิดกฎหมาย 12 คัน และข้อมูลการกระทำความผิดอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งเขาก็มีการระบุถึงตัวบุคคลที่ร่วมขบวนการกับเขา และเขาก็ยืนยันว่าไอ้ที่ไปปล้นกันไม่ได้ปล้นกันแค่เพียง 23 คน เขามีมากกว่านั้น ตนก็มาให้ข้อเท็จจริงตรงนี้ แต่ที่เขาประกันตัวไปได้ เราถือว่าเป็นอันตรายต่อผู้เสียหายด้วยเพราะเขามีเครือข่ายจำนวนมาก ที่ทรงอิทธิพล เพราะการสร้างองค์กรอาชญากรรม ซึ่งเขามีทั้งหมด 60 คน ตนจึงอยากจะเรียกว่า การตั้งข้อหา จริง ๆ แล้วถ้าดูจากพฤติการณ์ มันน่าจะเป็นร่วมกันปล้น ไม่ใช่ว่าเป็นกรรโชก และที่สำคัญที่สุดคือมีการปลอมหมายศาล ข้อหา ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ก็ยังไม่มีในข้อหาที่มีการแจ้งกลุ่มดังกล่าว สำคัญที่สุดคือ การกระทำครั้งนี้ถ้ามีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องมันก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับ รองสารวัตรสอบสวน สน.พญาไท ด้วยเพราะว่าตัวผู้ต้องหา ยืนยันว่ามีการโอนเงินให้กับรองสารวัตรท่านนี้สองแสนห้า และมีการโอนภายหลังอีกจำนวนอีกแสนกว่าบาท รวมแล้วก็ประมาณเกือบสี่แสนบาท ตนก็อยากให้ทุกท่านลองพิจารณาดูและส่วนสำคัญอีกเรื่องคือการออกหมายจับน้องสาวของ บอย ยูนิตี้ กับ เลขา ซึ่งเป็นคนสับเปลี่ยนของกลางและเป็นคนสำคัญในคีแมนของคดีนี้ ยังลอยนวลอยู่ แต่ตนทราบมาว่า น้องสาว บอย ยูนิตี้ ตอนนี้น่าจะอยู่ในเรือนจำหลังจากไปก่อเหตุมาแล้ว เนื่องไปโดนคดีรถหรู ของพี่ชาย บอย ยูนิตี้ ก็อยากจะฝากทุกท่าน คือ เรื่องนี้มีการอ้างรัฐมนตรี มีการอ้างผู้ใหญ่ในรัฐบาล และเป็นองค์กรอาชญากรรม ขนาดใหญ่ อยากฝากทุกคนว่า ถ้าเราปล่อยพวกนี้ยังลอยนวลในสังคม เราก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาไปก่อเหตุกี่คดีมาแล้ว เพราะเขาเลือกเป้าเฉพาะคนที่เป็นผู้ต้องหาคดีเว็บพนันหรือคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งพวกเหล่านี้มันทำผิดกฎหมาย มันย่อมไม่มาแจ้งความอยู่แล้ว และเคสนี้เขายืนยันกับตนว่า เขากำลังเจรจาแบ่งเงินกันระหว่างตำรวจกับพวกเขา และก็จะให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ อันนี้เป็นคำที่เขายืนยันกับตนมา ตนก็อยากจะฝากผู้การและทุกท่าน ตนอยากให้มีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนใหม่อีกชุดนึง คือ ตำรวจภูธรจังหวัด กับทางกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เพราะว่ามันจะทำให้พี่น้องประชาชน หรือผู้เสียหาย หรือผู้ใหญ่ ได้รับความมั่นใจว่า มันจะไม่มีการเหมือนที่ นายออม พูดกับตน ซึ่งตนเชื่อมั่นในเกียรติของตำรวจอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจตนอยากให้ท่านผู้การรองทบทวนดู และเรื่องข้อหาก็ลองพิจารณาดู เพราะว่าเราได้ศึกษาและปรึกษาทางท่านอัยการ และอดีตท่านผู้พิพากษา ทุกคนมีความเห็นเหมือนกันว่าไม่ควรเป็นข้อหาร่วมกันกรรโชก เพราะข้อหานี้มันเบาไป และก็ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ก็คือหมายศาลปลอม ถ้าหากอยู่ในวันที่มีการเอาไปฝากขังถ้าศาลเห็นตนเชื่อว่าศาลไม่ให้ประกันตัว เพราะมีการปลอมหมายศาลเอาไปใช้ในการเข้าค้นบ้านเหยื่อ โดยมีการแอบอ้างเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รายงาน ท่านทวี สอดส่อง เดี๋ยวท่านทวี ก็จะแจ้งความ โดยมอบหมายให้ตนเป็นคนแจ้งความภายในสัปดาห์นี้ สิ่งที่ นายออม มาร้องตนเพื่อต้องการให้เอารองสารวัตรรายนี้มาสอบสวนด้วย ก็คือถ้าจะเอาขบวนการของเขาก็ต้องเอาให้หมด ไม่ใช่ว่าเอาแค่ไม่กี่คน
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่า พอ ท่านอัจฉริยะ ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ปรากฏว่าคนที่ร้องเป็นผู้กระผิดซะเอง ท่านก็กำชับว่าให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา แล้วก็หลักฐานบางส่วนที่จะมอบให้วันนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก ตั้งแต่แรกที่คดีเกิด ผู้ต้องหา ก็ไม่ให้ความร่วมมือ มาพร้อมทนายความ ซึ้งอันนี้เป็นหลักฐานที่สำคัญ ก็ต้องขอขอบคุณ ส่วนประเด็นที่สอง ต้องนำเรียนเช่นนี้ในฐานะผู้บังคับการและเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนของจังหวัด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ผู้เสียหายสองคนคือสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ว่ามีกลุ่มบุคคลเป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 22 คน เข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตรวจค้นบ้านเขา แล้วเอาทรัพย์สินเขาไป ร่วมถึงรถยนต์ ร่วมประมาณ 20 ล้าน เรื่องก็คือว่า ก่อนที่จะมาค้นบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่ สภ.บางแก้ว ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 12 ตัวผู้เสียหายทั้งสองคนอยู่ที่อุดรธานี กลุ่มผู้ต้องหาได้ไปค้นบ้านเขาที่อุดรก่อน แล้วก็ยึดทรัพย์สินเขาบางส่วน อาทิ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ หลังจากนั้นก็สักถามตัวผู้เสียหายก็ปรากฏว่ายังมีทรัพย์สินที่บ้านที่บางแก้ว ก็ได้นำกำลังและผู้เสียหายทั้งสองคนมาที่บางแก้ว ถึงนี้วันที่ 13 ก็มาค้นอีกก็ได้ทรัพย์สินไป รวมทั้งรถยนต์ 3 คัน ก็เอาหลบหนีไป หลังจากนั้นผู้เสียหายเขาก็มาแจ้งความร้องทุกข์ ผมได้สั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนลงมาทำคดีนี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหา มีจำนวนหลายคน เพราะฉะนั้นเราจึงได้ประสานทั้งกองปราบ สืบภาค 1 สืบจังหวัด แล้วก็สืบบางแก้วลงไปทำคดีนี้ รวมทั้งทีมพนักงานสอบสวน ต้องขอบคุณทีมสืบสวนสอบสวนที่ทำให้สามารถคลี่คลายได้ในเวลาอันรวดเร็ว เราก็สามารถเก็บข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ จนตัวละครที่เข้าที่เกิดเหตุทั้งสองที่ รวมแล้วจากภาพวงจรปิดและที่บุคคลยืนยันมีทั้ง 23 คน แบ่งเป็นทีมสั่งการที่เข้าที่เกิดเหตุมี 1 คน เป็นผู้ต้องหาที่มาร้องเรียนและให้ข้อมูล นายอัจฉริยะ ส่วนอีกคนเป็นเครือญาติที่เรากำลังจะออกหมายจับ ตอนนี้แจ้งข้อหา จับกุม ออกหมายจับ ไปแล้ว 21 คน อีก 2 คน ออกหมายจับ ในทีมของเขา มีชุดสั่งการ และก็ชุดปฏิบัติ ผู้ที่ร่วมปฏิบัติจะเป็นการ์ดที่รับงานตามงานอีเว้นต่าง ๆ จะระดับหัวหน้าอยู่ 3 คน ก็คือเป็นการ์ดของตัวผู้ต้องหา 1 คน อีกหนึ่งคนเคยเห็นการ์ดของผู้เสียหาย ซึ่งเอาข้อมูลมาให้ตัวผู้ต้องหา และการ์ดอีกคนเป็นคนประสานกำลังที่จะมาร่วมทำงาน ส่วนอีกส่วนก็คือส่วนสนับสนุนงานที่เกี่ยวกับไอทีคอยเช็คข้อมูลในคอมพิวเตอร์และในโทรศัพท์มือถืออีก 3 คน และทีมรถตู้ซึ่งเป็นรถตู้เช่ากับจ้าง จำนวน 2 คัน ในการใช้ทำงาน จากหลักฐานที่เรามีอยู่แล้วก็จากผู้เสียหายยืนยัน เราจับไปแล้ว 21 เหลืออีก 2 ด้วยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน มาในประเด็นส่วนของตัวผู้ต้องหา ในชั้นสอบสวนไม่ได้การเป็นประโยชน์อย่างมาก บอกแค่ว่าทำงานให้ผู้ใหญ่ในรายละเอียดก็ไม่ให้ ในการสืบสวนเราถึงรู้ว่าตัวผู้ต้องหาได้ข้อมูลตัวผู้เสียหายมาจากอดีตการ์ดของตัวผู้เสียหาย ทั้งผู้เสียหายและตัวผู้ต้องหาจะไปเที่ยวทองหล่อก็จะมีการ์ดประจำตัวคอยดู อีกทางในการสืบสวนสอบสวนประเด็นที่ผู้ต้องหาไปแจ้งความก่อนหน้านั้นคือ วันที่ 24 เมษายน มีการไปแจ้งลงประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน ที่ถูกพาดพิง ว่ารู้ข้อมูลเกี่ยวกับคนไปทำงานอยู่ในกลุ่มของมิจฉาชีพจีนเทา เพื่อเป็นต้นเรื่องหลังจากนั้นวันที่ 24 มา ทางกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการเรียกการ์ดพวกนี้ไปประชุมวางแผนเป็นเวลา 2 วัน ก่อนที่ขึ้นไปทำงานที่อุดร วันที่ 9 แล้วก็เข้าตรวจค้นบ้านเขา ในวันที่ 12 แล้วก็ตามมาค้นบ้านที่บางแก้ว วันที่ 13 แล้วก็เอารถไปจอดไว้ที่ สน.พญาไท แล้วตำรวจสืบสวนเราก็ตามไปยึดรถมา ณ ขณะนี้ ทรัพย์สินที่เราตามยึดมาได้แล้ว เป็นรถยนต์ 3 คัน ส่วนทรัพย์สินอื่น เงินสด สร้อย แหวน นาฬิกา ตอนนี่ยังไม่ได้ หลักฐานที่ นายอัจฉริยะ นำมาให้เราในวันนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์มาก ในเรื่องของการติดตามทรัพย์สิน เพราะสุดท้ายทางฝ่ายผู้ต้องหาก็เอาทรัพย์สินเขาไป ทรัพย์สินบางส่วนก็ยังไม่ได้คืน ส่วนรถยนต์ได้คืนมาหมดแล้ว ส่วนรถยนต์ที่เอาไปจอดไว้จากการตรวจสอบกับ สน.พญาไท ก็ไม่มีตำรวจไปลงบันทึกตรวจยึดหรือตรวจยึดไว้แต่อย่างใด แต่จากกล้องวงจรปิดก็จะเห็นกลุ่มผู้ต้องหาเอารถไปจอดทิ้งไว้เฉย ๆ ในส่วนของประเด็นของพนักงานสอบสวนที่ นายอัจฉริยะ และผู้ต้องหาให้ข้อมูล อันนี้มีประโยชน์มาก เราได้ติดตามตัวมาแล้ว อยู่ระหว่างให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนอยู่ ผมยืนยันอย่างนี้ ถ้ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือร่วมกระทำความผิดจะดำเนินคดีอย่างแน่นอน ผมด้วยประกันด้วยศักดิ์ศรีและเกียรติของตำรวจ เราตรงไปตรงมาว่ากันไปตามหลักฐาน
ในเบื้องต้นตอนนี้พยานหลักฐานยังไม่ถึง และอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน ตนเองยังยืนยันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการสอบสวนมีคณะทำงานและมีทนายความทั้งสองฝ่าย จึงต้องทำอย่างรอบครอบรัดกุม ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ขณะนี้ต้องทีมพนักงานสอบสวนเข้ามาดูแลคดีนี้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติของคณะทำงาน ต้องอยู่ที่ข้อเท็จจริงทั้งหมดหากพบว่าข้อเท็จจริงเข้าข้อกฎหมายตามความผิดใดบ้างใครเกี่ยวข้องบ้าง พนักงานสอบสวนก็จะต้องแจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องที่พบตามความผิด
**************************
อัญมณี คงสินธ์ / เจริญพงษ์ นาคขำ จ.สมุทรปราการ

Ad 1
Ad 2