วันเสาร์, สิงหาคม 16, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตามรวบหนุ่มหื่น คดีโทรมเด็กหญิงวัยเพียง 8 ขวบ

ตามรวบหนุ่มหื่น คดีโทรมเด็กหญิงวัยเพียง 8 ขวบ

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ตามรวบหนุ่มหื่น คดีโทรมเด็กหญิงวัยเพียง 8 ขวบ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายไพวรรณฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 400/2563 ลง 14 ส.ค.63 คดีหมายเลขดำที่ อ 1182/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อ 3309/2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดที่เกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเรา, ความผิดเกี่ยวกับการอนาจาร, ความผิดต่อเสรีภาพ”

สถานที่จับกุม หน้าบ้านหลังหนึ่ง แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหาย ได้ฝากบุตรสาวของตนคือ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 8 ปีพร้อมกับน้องอีก 2 คน ไว้กับ มารดาของตน (ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายของเด็กๆ) ซึ่งพักอาศัยร่วมอยู่กับนายจำปีฯ สามีใหม่ของมารดาซึ่งนายจำปีฯ มีลูกติดมาด้วย 1 คน คือ นายไพวรรณฯ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่ง 2 พ่อลูกดังกล่าว มักจะหาโอกาสที่จะกระทำล่วงละเมิดทางเพศกับ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อยู่เป็นประจำ ต่อมาเมื่อเพื่อนบ้านทราบเรื่องที่ ด.ญ.บี (นามสมมติ) ถูกกระทำชำเรา ทนไม่ไหวจึงพาแม่และเด็กเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี จากการสอบสวนพบการกระทำความผิดของทั้ง 2 พ่อ ลูก ดังนี้ เมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน 2557 ขณะ ด.ญ.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 8 ปีกับน้องสาวกำลังเล่นซ่อนหาอยู่ภายในบ้านพักที่เกิดเหตุ นายไพวรรณฯ ได้ทำทีมาขอเล่นด้วยและจับ ด.ญ.บี (นามสมมติ)เข้าไปภายในห้องปิดประตูก่อนจะลงมือกระทำชำเรา น้องสาวพยายามตะโกนเรียก ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงแอบดูและเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว
ต่อมาเมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2557 นายจำปีฯ เรียกให้ ด.ญ.บี (นามสมมติ) เข้าไปในห้องแล้วจับมัดแขนขา ก่อนจะลงมือข่มขืน ด.ญ.บี (นามสมมติ)

ต่อมาในวันที่ 5 ธันวาคม 2557 นายจำปี พร้อมด้วยนายไพวรรณฯ ได้ชักชวนเพื่อนอีก 2 คน มาร่วมข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.บี (นามสมมติ) โดยผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเรา

ต่อมาประมาณ กลางเดือนธันวาคม 2557 ผู้เป็นยายของเด็ก ได้ออกไปธุระข้างนอก นายจำปีฯ ได้ไล่ให้น้องทั้ง 2 คน ของ ด.ญ.บี(นามสมมติ) ออกไปเล่นนอกบ้าน จากนั้นก็กักตัว ด.ญ.บี (นามสมมติ)ไว้ภายในบ้าน ปิดประตู ปิดไฟ ปิดผ้าม่าน น้องทั้ง 2 จึงวิ่งไปตามยาย เมื่อยายมาถึง ได้เปิดประตูเข้าไปเห็นนายจำปีฯ กำลังกระทำชำเราด.ญ.บี (นามสมมติ) จึงตะโกนด่านายจำปี และช่วยด.ญ.บี (นามสมมติ)ไว้ได้ ต่อมา นายจำปีฯ ย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งระหว่างนั้น ด.ญ.บี (นามสมมติ)เองก็ย้ายไปอยู่กับญาติที่อื่นช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ต่อมา ด.ญ.บี (นามสมมติ) ได้เล่าเรื่องราวที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราให้เพื่อนบ้านพลเมืองดีฟังจนทนกันไม่ไหว จึงเป็นที่มาของการพามารดาและเด็กเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี

ต่อมาเมื่อ นายจำปีฯ ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่นายจำปี ฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และอ้างว่า ด.ญ.บี (นามสมมติ) เป็นผู้เริ่มก่อน สุดท้ายถูกศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษา จำคุก 18 ปี ปัจจุบันถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ

ส่วนนายไพวรรณฯ ลูกชายนายจำปี ฯ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปทำงานอยู่ที่จังหวัดราชบุรี กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุดก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่นายไพวรรณฯ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งศาลชั้นต้นได้ตัดสินลงโทษจำคุกนายไพวรรณฯ 16 ปี นายไพวรรณ ฯ ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์สู้คดีต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงมีคำพิพากษาลดโทษนายไพวรรณฯ เหลือโทษ จำคุกเพียง 2 ปี หลังจากมีการรับโทษครบกำหนด 2 ปี นายไพวรรณฯ จึงได้ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ กระทั่งต่อมาศาลฎีกาได้พิจารณาแก้โทษนายไพวรรณฯ ให้รับโทษเพิ่มขึ้นเป็นจำคุก 3 ปี 8 เดือน จึงให้ออกหมายจับจำเลยคือ นายไพวรรณฯ มาบังคับโทษตามคำพิพากษา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.จึงได้วางแผนสืบสวนติดตามจับกุม จนทราบว่า นายไพวรรณฯ ได้หลบหนีมาทำงานและมากบดานอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งบริเวณถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมนายไพวรรณ ฯ ผู้ต้องหารายนี้ ก่อนนำตัวส่งศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Ad 1
Ad 2