หน้าแรกทั่วไประทึก! ไฟไหม้โกดังบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า แสมดำซอย 21 วอดทั้งโกดังเสียหายกว่า 100 ล้าน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

ระทึก! ไฟไหม้โกดังบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า แสมดำซอย 21 วอดทั้งโกดังเสียหายกว่า 100 ล้าน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ระทึก! ไฟไหม้โกดังบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า แสมดำซอย 21 วอดทั้งโกดังเสียหายกว่า 100 ล้าน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2568

พ.ต.ต.ชิด ศรีสุข สวป.สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โกดังบริษัท ไอแม็กซ์ พาวเวอร์ ทูล จำกัด ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องมือช่าง เลขที่ 15 ซอย แสมดำ 21 แขวงแสมดำ เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงไปตรวจสอบพร้อม นาย สุริยชัย รวิวรรณ ผอ.ปภ.กทม. กำลังสายตรวจ สน.แสมดำ พร้อมรถน้ำดับเพลิงกว่า 30 คัน ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นโกดังชั้นเดียวขนาดใหญ่อยู่ด้านในสุด ปลูกติดกัน 2 หลัง ในเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ ภายในโกดังจุดเกิดเหตุเก็บเครื่องมือช่างที่มีแบตเตอรี่ลิเธียม ด้านหน้าเป็นอาคารสำนักงาน สูง 2 ชั้น ก่อนเพลิงลุกลามไปยังโกดังที่ 2 ซึ่งเก็บแผงโซล่าเซล อย่างรวดเร็ว และลามถึงอาคารสำนักงาน และมีเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทำการตัดไฟ และระดมหัวฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นความเสียหายที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ส่วนทรัพย์สินเสียหายมูลค่า ประมาณ 100 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดว่าไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่

สอบสวน นาย ภาณุพันธุ์ อายุ 28 ปี เจ้าของบริษัท ให้การว่า บริษัทตนนำเข้าเครื่องมือช่างไฟฟ้าไร้สายมาจากประเทศจีน ภายใต้แบรนด์ โอซูกะ โดยที่นี่เป็นโกดังเก็บและกระจายสินค้า พื้นที่ 1,300 ตารางเมตร เพลิงลุกไหม้จากทางด้านใน ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องมือช่างไฟฟ้าไร้สาย คาดว่าจะเกิดจากการลัดวงจรไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ แล้วลุกลามอย่างรวดเร็วไหม้จนหมดโกดัง ตนทำธุรกิจมาได้ประมาณ 1 ปี และทำประกันภัยอัคคีภัยไว้ด้วยขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเลิกงาน โดยปกติจะเลิกงานช่วง 5 โมงเย็น แต่วันนี้พนักงานอยู่ทำโอทีถึง 6 โมงเย็น ทำให้ไม่มีใครอยู่ด้านใน มีเพียงพนักงานบางส่วนยืนเล่นอยู่บริเวณด้านหน้าบริษัท จู่ ๆ ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดภายในโกดังจุดเกิดเหตุ ลักษณะคล้ายแบตเตอรี่ระเบิด จนเกิดไฟลุกโหมอย่างรุนแรง จึงโทรแจ้งเจ้าของบริษัททราบ โดยไม่ทราบสาเหตุ ประกอบกับตอนเกิดเหตุที่บริษัทไม่มี รปภ. แต่ใช้ระบบสัญญาณเตือนภัยซีคอม

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

 

Ad 1
Ad 2