เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ศูนย์กู้ชีพปราการได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธปืน เหตุเกิดที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งภายในซอย บุญถนอม ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูไปตรวจสอบ
พอเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่หน้าบ้านหลังดังซึ่งเป็นบ้านปูนสองชั้นปลูกติดกันมีรั้วกำแพงปูนกั้นระหว่างบ้าน โดยข้างกำแพงรั้วตรงลานจอดรถของบ้านพบร่างของ นาย อำนาท เผือกวัฒนะ อายุ 55 ปี ถูกยิงเข้าที่กลางอกจำนวน ห่างกันเล็กน้อย พบร่างของ นางสุรินทร์ เผือกวัฒนะ อายุ 50 ปี ภรรยาของ นายอำนาท นอนเสียชีวิตมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะอย่างน้อย 2 นัด โดยมีปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกเกลื่อนพื้นจำนวน 7 ปลอก และพบอาวุธปืนกึ่งออโต้ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 
กระบอก เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเก็บทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงปิดกั้นพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นาย มานิตย์ เผือกวัฒนะ อายุประมาณ 72 ปี เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลสำโรง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ขับ รถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า หลบหนี โดยตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการได้วิทยุสกัดจับแต่ยังไร้วี่แวว
จากการสอบถามข้อมูลทางญาติผู้ตายบอกให้ข้อมูลแต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่า ผู้ก่อเหตุกับผู้ตายเป็นอาหลานกัน และเป็นญาติพี่น้องกัน ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีบ้านรั้วติดกัน ก่อนหน้านี้ ช่วงต้นเดือนเมษายนปี 2567 ที่ผ่านมา คุณยายอายุ 80 ปี ก็เคยถูก นาย มานิตย์ บุกเข้ามาใช้ชะแลงฟาดที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บและเป็นคดีความอยู่ในชั้นศาลมาแล้ว จนมาล่าสุดมาเกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง 
ขณะที่ นางสาว โอ๋ คนนี้เป็นหลานสาวของผู้ก่อเหตุ ได้เล่าให้ฟังว่า บ้านผู้ตายกับบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ติดกันและเป็นญาติ ซึ่งมีปัญหากันมาก่อน ซึ่งบ้านคนที่เสียชีวิตจะทำรั้วบ้าน แต่ลุงที่เป็นมือปืนได้มาบอกว่าห้ามเจาะรั้ว และป้าอีกคนเลยมาพูดว่ากล้ายิงหรือเปล่า จากนั้นลุงจึงเอาปืนออกมายิงตนเองไม่ทราบว่าพี่นัดแต่มีผู้เสียชีวิต2 ราย ส่วนลุงผู้ก่อเหตุตอนนี้หลบหนีเรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้มี ปัญหากันมาก่อนและอยู่ระหว่างขึ้นศาล โดยทั้งคู่เป็นญาติกันและบ้านอยู่ติดกันมีปัญหากันบ่อยครั้ง
ส่วนคุณลุง ปุ๊ค นามสมมุติ อายุ 62 ปี *** ( เบลอหน้า ) *** เพื่อนบ้านใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่า ตนเองไม่เห็นขณะเกิดเหตุและได้ยินเสียงปืนประมาณหกถึงเจ็ดนัดจากนั้นคนร้ายได้ขับรถยนต์หลบหนีออกไป ซึ่งตนเองมาดูที่เกิดเหตุก็พบว่าคนที่ถูกยิงนั้นเสียชีวิตแล้ว โดยคนที่ถูกยิงเป็นสามีภรรยากันซึ่งเป็นหลาน ส่วนคนยิงหรือมือปืนนั้นเป็นอา ซึ่งมีปัญหากันเรื่องทำกำแพงรั้วกั้นเสียงดัง 
เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดใช้เวลาไม่นาน ส่วน ชนวนเหตุเกิดจาก บ้านของผู้เสียชีวิตมีการต่อเติมกำแพงเมทัลชีล แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจคิดว่ามาเจาะกำแพงบ้านของเขา จึงมีการมาโต้เถียงกับเมียของผู้เสียชีวิตก่อนในตอนแรก ก่อนจะนำปืนที่เตรียมมายิงใส่หลานชายตัวเองหลายนัด และหันกลับมายิง หลานสะใภ้อีก 2 นัด ก่อนจะยิงเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะยิงลูกชายผู้ตายแต่ไม่โดนเพราะวิ่งหลบทันอีก 1 นัด
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ระบุว่าสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้มาจากการทะเลาะวิวาทกันระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านส่วนปืนเป็นปืนประจำตัวของผู้ก่อเหตุเอง ส่วนผู้ตายคือหลานชายและหลานสะใภ้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาหลายครั้งจนมาล่าสุดฝั่งผู้ตายจะต่อเติมบ้านจนมีปากเสียงกันอีกครั้งจนผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนทั้ง สภ.สำโรงใต้และฝ่ายสืบสวนกองบังคับการสืบสวนจังหวัดไปเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนประเด็นที่เคยก่อเหตุทำร้ายแม่ของผู้ตายมาก่อนหน้านี้นั้นอาจเกี่ยวพันต่อเนื่องกันมา ส่วนผู้ก่อเหตุหากเห็นข่าวก็ขอให้ติดต่อมอบตัวหากหนีก็หนีไม่พ้นการจับกุม ซึ่งหน้าจะใช้เวลาไม่นานจะติดตามจับกุมตัวได้แน่นอน
***********************
อัญมณี คงสินธ์ / เจริญพงษ์ นาคขำ จ.สมุทรปราการ
