หน้าแรกทั่วไปสาวปราจีนฯ เข้าแจ้งความหลังควงแฟนไต้หวันเที่ยวสงกรานต์พระประแดง ถูกวินมอเตอร์ไซค์เรียกเก็บค่าโดยสารเกินจริง ร่วม 4,000 บาท

สาวปราจีนฯ เข้าแจ้งความหลังควงแฟนไต้หวันเที่ยวสงกรานต์พระประแดง ถูกวินมอเตอร์ไซค์เรียกเก็บค่าโดยสารเกินจริง ร่วม 4,000 บาท

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว


เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 29 เมษายน 2568 น.ส.กุลสตรี(หรือวุ้นเส้น) พรหมประเสริฐ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยเพื่อนหญิงและแฟนหนุ่มชาวไต้หวัน เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ กับ ร.ต.อ.สามารถ สัตยา รองสารวัตรสอบสวน หลังถูกคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เรียกเก็บค่าโดยสารในราคาสูงถึง 4,000 บาท ขณะเดินทางมาเที่ยวงานประเพณีสงกรานต์พระประแดงเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา
ผู้เสียหายเผยว่า ตนพร้อมเพื่อนและแฟนหนุ่ม เดินทางมาจากจังหวัดปราจีนบุรี ด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพื่อร่วมงานสงกรานต์ที่พระประแดง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานดังกล่าว เมื่อมาถึงถนนสุขสวัสดิ์ ได้ว่าจ้างวินมอเตอร์ไซค์ใกล้สะพานพระราม 9 เพื่อเข้าไปยังพื้นที่จัดงาน โดยไม่ทราบข้อมูลพื้นที่อย่างละเอียด
โดยผู้เสียหายและเพื่อนรวม 4 คน ถูกแยกขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ 2 คัน คันละ 3 คน รวมทั้งคนขับ ซึ่งหลังจากไปส่งถึงที่หมาย บริเวณสามแยกพระประแดงอาเขต คนขับได้แจ้งว่า ค่าบริการรวมเป็นเงิน 4,000 บาท โดยอ้างว่าระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร และคิดในอัตรากิโลเมตรละ 100 บาท ทำให้ผู้เสียหายตกใจ แต่ไม่สามารถต่อรองได้มากนัก ก่อนถูกกดดันให้จ่าย 3,000 บาท ผ่านการโอนเงิน
ภายหลังตรวจสอบระยะทางจริง พบว่าเส้นทางที่นั่งมาเพียง 2-3 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้เกิดความสงสัย และตัดสินใจเข้าแจ้งความ พร้อมนำคลิปวิดีโอเหตุการณ์มายื่นเป็นหลักฐาน
น.ส.กุลสตรี(หรือวุ้นเส้น) พรหมประเสริฐ อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย (เสื้อฟ้า) และ น.ส.นารา เพชรรัตน์ อายุ 24 ปี (เสื้อดำ) เปิดเผยกับสื่อว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองขับรถมาจากจังหวัดปราจีนบุรี มุ่งหน้าปทุมธานี หลังจากนั้นได้ค้นหาทาง เฟสบุ๊ค แล้วพบว่ามีเล่นสงกรานต์พระประแดง จึงขับรถมาได้พบกับวินรถจักรยานยนต์และได้จอดพูดคุยสนทนากัน ซึ่งจอดอยู่ข้างทาง ตนเองจึงสอบถามว่าจอดรถที่ไหนได้บ้าง หลังจากนั้นวินคันดังกล่าวจึงได้พาไปจอดรถที่ใต้สะพาน และจ้างให้ไปส่งในพื้นที่จัดงาน ซึ่งตนเองมองว่าคนเยอะ แต่วินคันดังกล่าวแนะนำให้ไปด้านหน้าเวทีโค้ก จากนั้นได้คิดราคากิโลเมตรละ 100 บาท มาด้วยกัน 4 คน คิดเป็นเงินคนละ 1,000 รวมสี่คน 4,000 บาท คันแรกจึงได้หันไปคุยกับวินอีกคันนึงที่ปิดหน้า และบอกว่าลดราคาเหลือ 3,000 ตนเองจึงขอเลขที่บัญชี และโอนยอดเงินไป ซึ่งตนเองคิดว่า ถ้าไม่จ่ายเงิน กลัวคนที่มาส่ง จะไปทำร้ายรถของตนที่จอดทิ้งไว้ ตนเองจำได้ว่าเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น หลีด และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตนเองมองว่าถ้าไม่จ่ายเค้าก็หงุดหงิดและไม่ยอม แต่จากที่ตนเองเช็ค GPS จุดจอดรถกับระยะทางที่ตนเองมาประมาณ 2 ถึง 3 กิโลเมตร ซึ่งตอนแรก ตนเองไม่ได้มีการตกลงราคา แต่คิดในใจว่า 500 ถึง 600 บาทก็ยินดี เพราะรถติดและเขาก็เปียกน้ำด้วย ซึ่งตนเองตั้งใจที่จะมาเล่นสงกรานต์พระประแดง เนื่องจากแฟนมาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรก และจังหวัดปราจีนบุรีที่ตนเองอยู่หมด ก็เทศกาลสงกรานต์แล้ว ซึ่งตอนแรกที่ตนเองจ่ายค่าโดยสารไป ยังเก็บไว้ในใจ แต่หลังจากที่โพสต์ลงโซเชียล แฟนของตนเองจึงสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น จึงบอกความจริงให้กับแฟนทราบแถมแฟนหนุ่มยังบอกอีกว่า ถ้าเป็นผม ผมก็ให้นะ 3,000 บาท เพราะผมไม่รู้
ด้าน Mr.Chiou Bu-shang อายุ 32 ปี ชาวไต้หวัน กล่าวว่า ที่ไต้หวันไม่มีสงกรานต์แบบนี้ ในวันนั้นตนเองไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แต่ยอมรับว่าสนุกมาก มีคนมาปะแป้ง และฉีดน้ำใส่ รู้สึกเอ็นจอยมาก คนที่นี่น่ารัก สนุกแบบยังไม่อยากกลับบ้านเลย และถ้ามีโอกาสมาพระประแดงได้ ตนอยากกลับมาที่นี่อีก
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.พระประแดง พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชิดชัย ซั้วทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามตัววินมอเตอร์ไซค์ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน โดยในการพูดคุยซึ่งใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปรับฟังการพูดคุยแต่อย่างใด แต่ญาติของผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์ได้ให้ข้อมูลเพียงว่า ผู้ขับขี่ถูกเพื่อนวินอีกคนที่เป็นผู้รับงานจริง หลอกให้มารับผู้โดยสารโดยไม่ทราบรายละเอียดเรื่องค่าบริการ
หลังการพูดคุยสอบถามกันเสร็จสิ้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา คนขับวินคันดังกล่าว ในข้อหา ใช้รถจักรยานยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 23/1 โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับ ในอัตราโทษสูงสุด 2,000 บาท และได้คืนเงินแก่ผู้เสียหาย จำนวน 1,000 บาท
ส่วน นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ผู้ขับขี่วินคันเกิดเหตุในวันดังกล่าว ไม่อนุญาตให้สื่อถ่ายภาพ และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่ยอมรับว่า เป็นตนที่ให้บริการผู้โดยสารรายนี้จริง ซึ่งถูกเพื่อนอีกคนชวนให้มาขับรถบริการในโอกาสวันสงกรานต์ดังกล่าว ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดว่า จะต้องคิดค่าบริการเท่าไหร่ อย่างไร เพื่อนบอกให้มา ก็มา และหลังจากส่งผู้โดยสารรายนี้เสร็จแล้ว เพื่อนก็ให้ไปกดเงินสดและรับเงินสดไปเองทั้งหมด ซึ่งตนไม่ได้ส่วนแบ่ง และไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้เลย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และจะติดตามผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง อีกคันมาสอบถามเพิ่มเติม ตามคำให้การของนายชัย และอาจมีการดำเนินคดี หากพบว่าเข้าข่ายเรียกเก็บค่าโดยสารเกินจริง หรือมีพฤติการณ์หลอกลวงนักท่องเที่ยวตามที่
**********************
ศรา คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ

Ad 1
Ad 2