หน้าแรกอาชญากรรมสกัดขบวนรถขนยาไอซ์ 100 กิโลกรัม ใช้อุบายขับรถเที่ยวฟีลครอบครัว หวังตบตาเจ้าหน้าที่

สกัดขบวนรถขนยาไอซ์ 100 กิโลกรัม ใช้อุบายขับรถเที่ยวฟีลครอบครัว หวังตบตาเจ้าหน้าที่

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

สกัดขบวนรถขนยาไอซ์ 100 กิโลกรัม ใช้อุบายขับรถเที่ยวฟีลครอบครัว หวังตบตาเจ้าหน้าที่

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.(ชุมพร-ระนอง) นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2.บก.ทล.,ร.ต.ท.สมบัติ ปัตเมฆ, ว่าที่ ร.ต.ต.กุญชร บุญชัด, ว่าที่ ร.ต.ต.สุริยา ปลื้มใจ รอง สว.(ป.) สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
ร่วมจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 คน
1.นายณรงค์ศักดิ์ ฯ อายุ 40 ปี ( ผู้ต้องหาที่ 1)
2.นายศิริศักดิ์ ฯ อายุ 43 ปี (ผู้ต้องหาที่ 2)
3.นางสาวพรเพ็ญ ฯ อายุ 19 ปี (ผู้ต้องหาที่ 3) เป็น ลูกเลี้ยงของนายศิริศักดิ์
4.นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาเป็นเยาวชน (ผู้ต้องหาที่ 4) เป็น เพื่อนของผู้ต้องหาที่ 3

พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ชนิดเกล็ดผงสีขาวขุ่น บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีเงินและสีทอง มีรูปดาวสีทอง 5 ดวง จำนวน 100 ห่อ น้ำหนักห่อละประมาณ 1 กิโลกรัม น้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม (ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุจำนวน 6 กล่องวางไว้บริเวณช่องวางของท้ายรถยนต์ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น XPANDER สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร)
2.รถยนต์ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น XPANDER สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร (รถยนต์ที่ใช้สำหรับบรรทุกยาเสพติด มีนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่)
3.รถยนต์กระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา ทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์ (รถยนต์ที่ใช้ขับนำสำรวจเส้นทาง-คุ้มกัน รถบรรทุกยาเสพติด ซึ่งมีนายศิริศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ขับขี่ มีนางสาวพรเพ็ญ ผู้ต้องหาที่ 3 และนางสาวเอ ผู้ต้องหาที่ 4 นั่งโดยสาร)
4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6เครื่อง ที่ผู้ต้องหาใช้ในการสื่อสารระหว่างการขนย้ายยาเสพติด

พฤติการณ์ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สกส. บช.ปส. ได้สืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มผู้รับจ้างลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เตรียมไปส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยจะใช้รถยนต์ 2 คัน ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่ารถยนต์ทั้งสองคันอยู่ระหว่างเดินทางผ่านจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สกส. บช.ปส. จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ให้ตั้งจุดสกัดกั้นรถยนต์เป้าหมายทั้งสองคัน บริเวณด้านหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหลังสวน ริมถนนเถนนหมายเลข 41 ฝั่งขาลงใต้ กม.ที่ 62 เมื่อรถยนต์ทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์ ขับนำรถยนต์ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ได้ขับมาถึงบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สกส. ที่ได้ติดตามรถยนต์เป้าหมายทั้งสองคัน พร้อมสกัดกั้นรถยนต์ทั้งสองคันไว้ได้

ผลการตรวจสอบ ภายในรถยนต์ทะเบียน กรุงเทพมหานคร พบกล่องพัสดุ จำนวน 6 กล่อง เมื่อเปิดออกมาพบเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) บรรจุอยู่ในกล่องพัสดุ ห่อด้วยพลาสติกสีเงินและสีทอง มีรูปดาวสีทอง 5 ดวง ซีลปากถุงด้วยพลาสใสอีกชั้นหนึ่ง (น้ำหนักก้อนละประมาณ 1 กิโลกรัม) จำนวน 100 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม

สอบถามผู้ต้องหาที่ 1-3 ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดพื้นที่จังหวัดสงขลา ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 100,000 บาท โดย นายศิริศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การว่า ตนใช้ให้ น.ส.พรเพ็ญฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของตน ชวนเพื่อน คือ น.ส.เอ ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี นั่งมาบนรถด้วย เพื่อให้ดูเหมือนว่าเดินทางกันเป็นครอบครัว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับ นางสาวเอ ซึ่งยังเป็นเยาวชน ให้การปฏิเสธว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ เพียงแค่ถูกชักชวนให้เดินมาด้วย ถูกหลอกจากน.ส.พรเพ็ญฯว่าจะพาไปเที่ยวที่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” และแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนทราบ เมื่อผู้ต้องหาที่ 1- 3 ทราบในข้อหาและสิทธิดีแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.สกส. บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปส่วนนางสาวเอ เยาวชนนั้น ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย จ.ชุมพร ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

Ad 1
Ad 2