หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจภูธรภาค 3 เปิดปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ตามนโยบายรัฐบาล โดยจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 1 ราย 3...

ตำรวจภูธรภาค 3 เปิดปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ตามนโยบายรัฐบาล โดยจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 1 ราย 3 คน พร้อมของกลาง ยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 2,000,000 เม็ด

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ตำรวจภูธรภาค 3 เปิดปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ตามนโยบายรัฐบาล โดยจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 1 ราย 3 คน พร้อมของกลาง ยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 2,000,000 เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์จำนวน 1 คัน

ตามที่คณะรัฐมนตรี โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา กำหนดกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี     นำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย ผู้ผลิตผู้ค้าคือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม

โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมทั้งควบคุมการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร โดยเฉพาะ    อย่างยิ่ง ปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปราม ยาเสพติดตามแนวชายแดน ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน

อาจเป็นรูปภาพของ 5 คน

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ  ทรวดทรง  รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช  พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ  สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างเป็นระบบ และขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่

ตำรวจภูธรภาค 3 โดย พล.ต.ท.วัฒนา  ยี่จีน ผบช.ภ.3/ผอ.ศอ.ปส.ภ.3, พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบช.ภ.3/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.3, พลโท บุญสิน  พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2, นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายมานพ  แสงโสทร ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ กวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ โดยให้ร่วมกันบูรณาการด้านการข่าว การแลกเปลี่ยนข่าวสารรวมถึงการร่วมมือกันในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามพื้นที่แนวชายแดน และพื้นที่ตอนใน

อาจเป็นรูปภาพของ 7 คน และ ข้อความ

โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผบก.สส.ภ.3, พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ รอง.ผบก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง.ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ทศพร เพียรปรุ รอง ผบก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.นิเวชร์ งามลาภ ผกก.ฯ พ.ต.อ.พรเทพ ทุ้ยแป ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ชวาลย์ วงษ์รอด ผกก.สภ.โชคชัย, พ.ต.อ.อิทธิพัทน์ ศรีมั่น ผกก.สภ.พระทองคำ

สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 นำโดย พ.ต.ท.คำพู  พลอยผักแว่น รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3, พ.ต.ท.ยุทธพล บุษบา รอง ผกก.สืบสวน 2, พ.ต.ท.ณัฐพร เขียวเกษม สว.กก.สืบสวน 2,ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง เพ็ญแข ชัยรัตน์กรกิจ, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.สาทิต คอกขุนทด รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.ท.ภทรธร ชญานันท์ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย นำโดย พ.ต.ท.สุชาติ ซ้อนพุดซา รอง ผกก.สส.สภ.โชคชัย ได้ร่วมบูรณาการสนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 นำโดย พ.อ.เยี่ยม ฤทธิ์น้ำคำ

อาจเป็นรูปภาพของ 3 คน และ ข้อความ

ร่วมสืบสวนจับกุมตัว

1.นายต้น อายุ 35 ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร จว.ชุมพร

2.นายเปี๊ยก อายุ 34 ปี ต.โพธิ์ชัย อ.วาปีปทุม จว.มหาสารคาม

3.พ.ต.ต.ช อายุ 49 ปี ต.โป่ง อ.บางละมุง จว.ชลบุรี (ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่ง สวป.(ชส.)

สภ.ศรีบุญเรือง จว.หนองบัวลำภู

​พร้อมของกลาง  1.ยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 2,000,000 เม็ด

2.โทรศัพท์ จำนวน 3 เครื่อง

​ตรวจยึดของกลาง -รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน (ราคาประเมิน 300,000 บาท)

-รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน (ราคาประเมิน 700,000 บาท)

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

พฤติการณ์  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุม สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดชาว สปป.ลาว จะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน จว.มุกดาหาร ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่พื้นที่ภาคกลางตอนในของประเทศไทย ผ่านพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 โดยเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวใช้ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อFORD รุ่นRANGER สีดำ ในการขนลำเลียงยาเสพติด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 , กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว

อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน และ ข้อความ

จนกระทั่ง พบว่ารถยนต์กระบะ ยี่ห้อFORD รุ่นRANGER สีดำ มีการเคลื่อนตัวออกมาจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก จว.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว จะลำเลียงนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าไปยังพื้นที่ภาคกลางตอนในของประเทศไทย และเชื่อว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวจะใช้เส้นทางที่เคยวิ่งลำเลียงยาเสพติดมาก่อนหน้านี้ และพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อTOYOTA รุ่นCOROLLA AlTIS สีขาว ซึ่งขับขี่ลักษณะวิ่งตามรถยนต์กระบะคันดังกล่าว

จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผนในการจับกุม โดยวางกำลังตามเส้นทางที่คาดว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวจะใช้เป็นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ โดยวางกำลังเฝ้าดู พร้อมทั้งสะกดรอยติดตาม และเพื่อให้ทราบถึงขบวนการเครือข่ายในการลำเลียงยาเสพติด โดยรถยนต์ทั้งสองคันใช้เส้นทางในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ จาก จว.มุกดาหาร ผ่าน จว.กาฬสินธ์ ผ่าน จว.มหาสารคาม ผ่าน สี่แยกทางผาด ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี จว.สุรินทร์ และขับขี่มุ่งหน้าเข้า อ.สตึก จว.บุรีรัมย์ ผ่าน อ.เมืองบุรีรัมย์ จว.บุรีรัมย์ ผ่าน อ.นางรอง จว.บุรีรัมย์ ผ่าน อ.หนองกี่ จว.บุรีรัมย์ และมุ่งหน้าเข้า อ.หนองบุญมาก จว.นครราชสีมา

จนกระทั่งมาถึง ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จว.นครราชสีมา จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสกัดกั้นและจับกุมรถยนต์ทั้งสองคันได้ ผลการตรวจค้นพบ นายต้น เป็นผู้ขับขี่ จึงทำการตรวจค้นตัว และรถยนต์ ผลการตรวจค้นพบ

-โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อIPHONE รุ่น12ProMax สีขาว จำนวน 1 เครื่อง สอบถาม นายต้น ให้การรับว่า โทรศัพท์ดังกล่าว นายต้นเป็นผู้ใช้งาน

-ถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ จำนวน 2 ห่อใหญ่ ด้านในห่อด้วยกระสอบสีขาว วางอยู่บริเวณบริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง

-ถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ จำนวน 3 ห่อใหญ่ ด้านในห่อด้วยกระสอบสีขาว วางอยู่บริเวณกระโปรงท้ายรถที่ใช้บรรทุกของ

และตรวจค้นจับกุมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อFORD รุ่นRANGER สีดำ ที่บริเวณสี่แยกโชคชัย ถนนโชคชัย-เดชอุดม ต.โชคชัย อ.โชคชัย จว.นครราชสีมา

ผลการตรวจค้นพบ นายเปี๊ยกและผู้โดยสารทราบชื่อว่า พ.ต.ต.ช จึงทำการตรวจค้นตัว และรถยนต์ ผลการตรวจค้นพบ

-โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อSUMSUNG รุ่นGALAXY S8+ สีดำ จำนวน 1 เครื่อง สอบถามให้การรับว่า โทรศัพท์ดังกล่าว เป็นผู้ใช้งาน

-โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อINFINIX X6711 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง สอบถาม พ.ต.ต.ช ให้การรับว่า โทรศัพท์ดังกล่าว พ.ต.ต.ช เป็นผู้ใช้งาน

อาจเป็นรูปภาพของ 3 คน และ ข้อความ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมจึงนำตัวผู้ต้อง พร้อมของกลาง มายัง กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 3 เพื่อตรวจเก็บพยานหลักฐาน จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อทราบถึงขบวนการและเครือข่ายยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลทราบว่า เครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว คือ เครือข่าย “ท้าวหิน”( ผู้สั่งการชาวลาว) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 3 จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้งเบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 สายด่วน 191 และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. หรือสายด่วน 1386 ของสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด  ต่อไป.

Ad 1
Ad 2
pratipon47
pratipon47http://www.เรื่องจริงผ่านเลนส์.online
ผู้สื่อข่าวประจำกองบรรณาธิการ