รวบหนุ่มไรเดอร์ผันตัวเป็นโจร กระชากสร้อยวันเดียว เหยื่อ 2 รายซ้อน อ้างติดพนันออนไลน์เงินไม่พอใช้
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 2 มีนาคม 2568
พ.ต.อ. วัชรพล สุวนันทวงศ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ, พ.ต.ท.ธนพรหม ธนอาภากร รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ กลิ่นลำยงค์ สว.สส.ฯ, พ.ต.ท.อัครชัย ชมชื่น สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ร่วมกันจับกุม นาย ธันวา อายุ 34 ปี อาชีพไรเดอร์ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 258/2568 ลงวันที่ 28 ก.พ.68 ข้อหา “ วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม “ ได้ที่อพาร์ต์เมนท์ ถนน เพชรหึงษ์ ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ก.พ.68 เวลา 16.00 น. นางสาว อัจฉรา อายุ 62 ปี ผู้เสียหาย
ถูก นายธันวา ฯ ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ บริเวณภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขณะที่นางสาว อัจฉรา กำลังเดินเข้าบ้านพักไปตามถนนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยประชาอุทิศ 33 และได้พบกับผู้ก่อเหตุ เป็นชาย อายุประมาณ 25 ปี สูงประมาณ 160 ซม. รูปร่างท้วม ผิวสีคล้ำ แต่งกายด้วยเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขายาว นั่งคร่อมอยู่บน รถ จยย. ไม่ทราบยี่ห้อ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน
จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ทำทีมาถามทาง กับผู้เสียหายระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นชายดังกล่าว ได้ใช้มือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ราคา 94,400 บาท พร้อมจี้ทองรูปหัวใจ หนัก 2 สลึง ราคา 23,600 บาท ก่อนขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป ภายหลังจี้ทองรูปหัวใจหนัก 2 สลึง ราคา 23,600 บาท ดังกล่าวได้ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนสร้อยคอทองคำ ถูกคนร้ายนำไป จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อหน้าพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ
ต่อมาเมื่อเวลา 16.15 น.ของวันเดียวกัน นางสาว ศิวพร อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย กำลังปั่นจักรยาน ไปตามถนนในซอยสุขสวัสดิ์ 58 เพื่อเข้าบ้านพัก ถูกคนร้าย เป็นชาย ตำหนิรูปพรรณรูปร่างท้วม ผิวดำ สวมหมวกนิรภัย สวมเสื้อแจ็คเก็ต สีดำ กางเกงยีนส์ สีดำ ขับรถ จยย. ยี่ห้อ Hond PCX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามมาจากทางด้านหลังของผู้เสียหาย จากนั้นได้ขับรถ จยย. แซงผู้เสียหาย และได้เลี้ยวกลับรถ แล้วขับรถ จยย. ตรงเข้ามาประชิดตัวผู้เสียหายและใช้มือกระชากสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ราคา 47,200 บาท พร้อมจี้พระนาคปรก ทรงสามเหลี่ยม ราคา 1,650 บาท ก่อนขี่รถจยย. หลบหนีไปทางปากซอย แต่ภายหลังผู้เสียหายพบว่า จี้พระนาคปรกทรงสามเหลี่ยมราคา 1,650 บาท ได้ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนสร้อยคอทองคำถูกคนร้ายได้ไป ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน กระทั่งเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับ โดยศาลอนุมัติหมายจับ นาย ธันวา ผู้ก่อเหตุ
ต่อมาวันนี้ 2 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นาย ธันวา ผู้ต้องหาตามหมายจับ อยู่ที่อพาร์ต์เมนท์ แห่งหนึ่งย่านพระประแดง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วได้เดินทางไปตรวจสอบ พบตัว นาย ธันวา เดินออกมาจากอพาร์ตเม้นท์ดังกล่าว จากการสอบถามและแสดงหมายจับให้ นาย ธันวา ดูแล้วยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงควบคุมตัวส่งมาสอบปากคำเพิ่มเติม
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน นาย ธันวา ผู้ต้องหาให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถโบลท์ ตอนก่อเหตุที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยประชาอุทิศ 33 ตนได้เข้าไปถามทางคุณป้า แล้วตนก็เกิดชั่งใจ ว่า ป้าพูดจากับตนดีมาก พอตนลงมือเสร็จตนก็ขี่รถจยย. หลบหนี ออกมาทางปากซอยสุขสวัสดิ์ 62 แล้วขึ้นสะพานตรงหน้าเมเจอร์ พระประแดง แล้วมาก่อเหตุที่ปากซอยสุขสวัสดิ์ 58 ขณะกำลังก่อเหตุ ตนเห็นผู้เสียหายขี่รถจักรยาน แล้วสังเกตุทองที่คอผู้เสียหาย จึงทำทีขี่รถ จยย. เข้าไปใกล้ พอได้จังหวะก็ลงมือกระชากทองที่คอของเหยื่อทันที ได้สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท 1 เส้น แล้วก็ขี่รถหลบหนี ส่วนเคส แรกตนได้สร้อยทองแค่ครึ่งเดียว ก็ได้เท่ากับ 1 บาท ส่วนเศษทองที่ได้จากเคสแรก ตนนำไปขายที่จังหวัดราชบุรี แล้วสร้อยอีกเส้นน้ำหนัก 1 บาท ตนนำไปขายที่มหาชัย จังหวัด สมุทรสาคร ได้เงินจากการขายสร้อยเส้นที่ 2 ประมาณ 40,000 บาท ทองทั้ง 2 เส้น นำไปขายเมื่อวานนี้
ผู้ต้องหาให้การอีกว่า ทุกวันนี้ตนขับรถเงินไม่พอใช้แค่ขับโบลท์ ค่าน้ำมันก็หมดไปแล้วครึ่งหนึ่งของเงินที่ได้จากการขับรถ ก็เลยไม่พอใช้ ซึ่งยอมรับว่า ตนติดพนันเกมส์ออนไลน์ด้วย ส่วนแฟนของตน ก็ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ตนก็ไม่ได้เอาเงินของแฟนมาใช้จ่ายด้วย เงินตนก็เลยไม่พอใช้จ่าย แล้วตนก็เล่นการพนันเกมส์ออนไลน์ด้วยทำให้ยิ่งไม่พอใช้จ่าย จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจในการลงมือก่อเหตุ ตนเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้วเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และคดีก็จบไปแล้วหลังจากทั้งสองเคสล่าสุด ก็ไม่มีแล้ว เงินที่ได้มาตนนำไปเล่นการพนันเกมส์ออนไลน์จนหมด โดยเติมเงินเข้าโทรศัพท์มือถือครั้งละ 20,000 บาท 3-4 ครั้ง ตนยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่เก่งมาก แล้วไม่มีการทำร้ายผู้ต้องหาอีกด้วย
เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป