หนุ่มไรเดอร์ ขับเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำ ดับสลด ย่านถนน สุขสวัสดิ์
วันที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลพลิกคว่ำบริเวณใกล้เคียงปากซอยสุขสวัสดิ์ 16 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย มีอาการสาหัสหมดสติภายในที่เกิดเหตุ และผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงอีก 1 ราย มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร ( ศูนย์เอราวัณ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ พบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนน สุขสวัสดิ์ ขาเข้า ใกล้เคียงปากซอย สุขสวัสดิ์ 16 เลยแยกบางประแก้วเล็กน้อย แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า สีบลอนด์เทา หมายเลขทะเบียน 9 กฉ 3853 กรุงเทพมหานคร อยู่ในลักษณะพลิกตะแคง กีดขวางทางช่องทางเลนขวา ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดท้ายแถวสะสมไปจนถึงปากซอยสุขสวัสดิ์ 44 และทางด้านถนนพระรามที่ 2 ขาเข้ามุ่งหน้าแยกบางประแก้วช่องคู่ขนานสะสมหน้าโรงพยาบาลบางประกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และช่องทางหลักติดขัดไปถึงทางขึ้นทางด่วนดาวคะนอง ท้ายแถวสะสมไปถึงหน้าห้างเซนทรัลพระรามที่ 2 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ชาย 1 หญิง 1 ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง อายุุ 49 ปี เป็นแม่ของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวและเป็นผู้ที่นังโดยสารมาด้วย ได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณศรีษะปูดโนจากแรงกระแทก มีสติถามตอบรู้เรื่องเป็นอย่างดี อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่ง รพ.บางประกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนลทันทีอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นชาย อายุ 28 ปี มีอาชีพเป็นไรเดอร์ และเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว มีอาการหมดสติภายในที่เกิดเหตุ สัญญาณชีพอ่อนแรง อาสาสมัครพร้อมหน่วยแพทย์กู้ชีวิตในระบบเอราวัณ ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการทำ CPR ภายในที่เกิดเหตุทันทีอย่างสุดกำลังความสามารถแล้ว แต่ไม่อาจจะช่วยชีวิตชายหนุ่มคนดังกล่าวเอาไว้ได้จึงยืนยันการเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชให้มาตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุ
และจากการสอบถาม แม่ค้าขายลอตเตอรี่ อายุ 70 ปี เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เขาขับมาจากทางแยกบางประแก้วขับมาอย่างแรงแล้วพุ่งชนฟุตบาทก่อนที่จะพุ่งไปชนแท่นแบริเออร์ แล้วเอาค้อนไปให้เขาทุบกระจกเพื่อนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บออกมา แต่ตนก็ไม่รู้ว่าคนที่ทุบเป็นใคร เขาก็ช่วยกันทั้งนั้น แต่พอทุบกระจกแตกก็ไม่สามารถเปิดประตูได้ต้องเอามือเอื้อมเข้าไปเปิดประตูจากด้านในอีกทีถึงจะเอาคนเจ็บออกมาได้ แต่เรื่องแค่นี้ก็ไม่น่าจะถึงตายคูกรณีก็ไม่มี แล้วทำไมถึงตายได้
ส่วนทางด้าน ช่างซ่อมนาฬิกา ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า รถเขามาตรง แล้วก็แฉลบ เข้าทางซ้าย แล้วเบี่ยงออกไปทางขวา มันก็ความเร็วสูงนะตอนที่เขาชนไม่มีคู่กรณี ตอนที่รถเขาคว่ำไปแล้วและมีคนช่วยออกมาตอนนั้นเขาหมดสติไปแล้ว เขาก็ช่วยกันปฐมพยาบาล โดยการทำ CPR เขาก็หวังดีกันทุกคน อย่างว่าชีวิตมนุษย์ อายุน้อยด้วย เขาขับรถคาดเบลท์หรือเปล่า ก็ไม่ทราบ ต้องถามดูอีกที แต่ว่ามีคนบอกว่าใส่เบลท์นะ แต่นี่ขนาดคาดเบลท์ ตนก็ไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เกิดจากโรคประจำตัวหรือเปล่า
ส่วนทางด้าน พ่อของผู้เสียชีวิต อายุ 51 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายตนนอนอยู่บ้านแล้วคุณแม่เขาบอกว่าให้พามาซื้อของที่โลตัสบางปะกอก พอซื้อของเสร็จก็กำลังจะกลับบ้าน จากที่ตนสอบถามจากชาวบ้านแล้วเขาบอกว่าลูกชายของตนขับรถเสียหลักพุ่งชนขอบฟุตบาทก่อนแล้วก็ไปชนแท่นแบริเออร์ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง ตอนนี้ตนก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ส่วนที่รถจะพลิกตะแคงก็เป็นไปได้ที่เขาหักเข้ามาชนขอบฟุตบาทแล้วแฉลบไปทางแท่นแบริเออร์
ส่วนทางด้าน นาย ธนัชพร อิ๋วสวัสดิ์ อายุ 24 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า ตอนที่รถมูลนิธิถึงเบื้องต้นมีประชาชนพลเมืองดีเขาทุบกระจกแล้วเขาก็เอาคนเจ็บออกมาอยู่บนถนนแล้วเขาก็เริ่มการทำ CPR ก่อนที่อาสาสมัครจะมาถึงประมาณ 2 นาที แล้วทีนี้หมอเขาก็มาแล้วเอาคนเจ็บขึ้นมาใว้บนฟุตบาทเพื่อจะได้ไม่กีดขวางการจราจร บาดแผลที่พบจะเป็นบริเวณส่วนหัวจะเป็นสีม่วงช่ำ แขนช้ำ น่าจะเป็นที่อากาศด้วยแล้วอีกอย่างคนเจ็บมีโรคประจำตัวด้วย เบื้องต้นแม่เขาแจ้งว่าเขาเป็นโรคหัวใจ คือเคยมีประวัติแบบนี้มาแล้วรอบนึง แต่ว่ารอบนี้ตนก็ไม่แน่ใจว่าโรคหัวใจกำเริบหรือเปล่า แต่ตอนที่อาสาสมัครมาถึงคนเจ็บออกมาจากรถหมดแล้วใครก็ไม่รู้ไปทุบกระจกเขาอาจจะหวังดีก็เป็นได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของผู้เสียชีวิตไปเก็บเอาไว้ก่อนที่ สน. เพื่อรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งส่วนร่างผู้เสียชีวิตแพทย์นิติเวชได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วจะให้ญาตินำเอกสารมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป