วันอังคาร, ธันวาคม 23, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมCIB บุกรวบสแกมเมอร์ยกแก๊ง หลอกลงทุน อ้างชื่อ 'โดนัลด์ ทรัมป์' เสนอผลตอบแทน 20 เท่า เหยื่อสูญกว่า 13 ล้านบาท

CIB บุกรวบสแกมเมอร์ยกแก๊ง หลอกลงทุน อ้างชื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เสนอผลตอบแทน 20 เท่า เหยื่อสูญกว่า 13 ล้านบาท

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

CIB บุกรวบสแกมเมอร์ยกแก๊ง หลอกลงทุน อ้างชื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เสนอผลตอบแทน 20 เท่า เหยื่อสูญกว่า 13 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ปฏิบัติการเข้าจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย ที่ร่วมกันก่อเหตุหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนในโครงการที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับ “กองทุนน้ำมันประเทศไนจีเรีย” โดยใช้เอกสารปลอมที่มีลายเซ็นของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความน่าเชื่อถือ เสนอผลตอบแทนสูงถึง 20 เท่า ทำให้มีผู้เสียหายกว่า 15 ราย สูญเงินรวมกว่า 13 ล้านบาท

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ปอศ. สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงได้ 6 ราย ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ขอนแก่น, อำนาจเจริญ, อุบลราชธานี, ปทุมธานี และนนทบุรี ประกอบด้วย 1.นายอธิณัฏฐ์ฯ (ตัวการหลัก อ้างเป็นเจ้าของกองทุนน้ำมัน) 2.นางสาวณันนภัชสรณ์ฯ หรือมาดามเมตตา (ร่วมอ้างเป็นเจ้าของกองทุน) 3.นางเข็มทองฯ (ดูแลการเงิน/เจ้าของบัญชีรับโอน) 4.นางสาวปรานิศาฯ (หัวหน้ากลุ่มไลน์ลงทุน) 5.นายถาวรฯ (หัวหน้ากลุ่มไลน์ลงทุน) 6.นางอนุภาฯ (พิธีกรดำเนินรายการชักชวนระดมทุน)
ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพยานหลักฐานสำคัญ 5 รายการ รวม โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 3 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 22 เล่ม และที่สำคัญที่สุดคือ เอกสารปลดอายัดเงินมูลค่า 783,800,000 USD ของสหรัฐอเมริกา ที่ปรากฏลายเซ็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวน 1 ฉบับ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

พฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพคือ การตระเวนจัดงานชักชวนระดมทุนตามโรงแรมในต่างจังหวัด โดยอ้างตนว่าเป็นนักธุรกิจใหญ่ เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมันประเทศไนจีเรีย มีแผนนำเงินเข้าไทยและต้องระดมทุนเพื่อดำเนินโครงการให้สำเร็จ
-สร้างความน่าเชื่อถือ นำเอกสารปลอม เช่น หนังสือรับรองการปลดอายัดเงินจากสหรัฐฯ ที่มีลายเซ็นโดนัลด์ ทรัมป์, หนังสือรับรองความเป็นเจ้าของทองคำทั่วโลกที่มีลายน้ำพิเศษ และเอกสารยอดเงิน 9 แสนล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคาร HSBC ประเทศจีน มาแสดง
-เสนอผลตอบแทน ชักชวนให้ลงทุน โดยเสนอผลตอบแทนสูงผิดปกติ ถึง 20 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน
-เรียกเก็บค่าธรรมเนียม เมื่อถึงกำหนดจ่ายผลตอบแทน ผู้ต้องหาจะบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุขัดข้อง โดยเรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้เสียหายเป็นค่าภาษี, ค่าธรรมเนียม, และค่าทนายสากล ทำให้เหยื่อบางรายหมดเนื้อหมดตัว ต้องกู้เงินมาลงทุนต่อ

ต่อมาผู้เสียหายได้นำเอกสารไปตรวจสอบที่สถานทูตไนจีเรีย พบว่าเป็น เอกสารปลอมทั้งหมด จึงได้เข้าแจ้งความต่อ กก.4 บก.ปอศ.

จากการสืบสวนเส้นทางการเงิน ตำรวจพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องถึง 22 บัญชี และมีเงินหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท โดยเงินที่ได้รับจากผู้เสียหายจะถูกโอนต่อเป็นทอดๆ และปลายทางของเงินส่วนใหญ่ถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุนกับบริษัทหรือกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นอัตราที่ผิดปกติและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมิจฉาชีพมักใช้กลโกงต่างๆ เช่น การอ้างชื่อกองทุนต่างประเทศ หน่วยงานรัฐ หรือองค์กรสากลเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

Ad 1
Ad 2