วันพุธ, พฤศจิกายน 26, 2025
หน้าแรกทั่วไป“สระบุรีผ่าเครือข่ายบัญชีม้าครั้งใหญ่! ล่าตัวผู้จัดหา–ผู้รับจ้าง–ผู้หมุนบัญชี รวบยกทีม 9 ราย ยึดสมุดบัญชี–บัตรเอทีเอ็มกว่า 80 ใบ โทรศัพท์ใหม่เกลื่อนรถ เตรียมส่งต่อแก๊งจีนเทา”

“สระบุรีผ่าเครือข่ายบัญชีม้าครั้งใหญ่! ล่าตัวผู้จัดหา–ผู้รับจ้าง–ผู้หมุนบัญชี รวบยกทีม 9 ราย ยึดสมุดบัญชี–บัตรเอทีเอ็มกว่า 80 ใบ โทรศัพท์ใหม่เกลื่อนรถ เตรียมส่งต่อแก๊งจีนเทา”

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

“สระบุรีผ่าเครือข่ายบัญชีม้าครั้งใหญ่! ล่าตัวผู้จัดหา–ผู้รับจ้าง–ผู้หมุนบัญชี รวบยกทีม 9 ราย ยึดสมุดบัญชี–บัตรเอทีเอ็มกว่า 80 ใบ โทรศัพท์ใหม่เกลื่อนรถ เตรียมส่งต่อแก๊งจีนเทา”

ภายใต้นโยบายเข้มของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 ตั้ง “คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” โดยมอบหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาตินำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช, และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ เดินหน้าไล่ล่าเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนรูปแบบรวดเร็ว ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ข่าวปลอม และเครือข่ายฟอกเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล

ผลปฏิบัติการครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของ ตำรวจภูธรภาค 1, สืบสวนสระบุรี และ สภ.เมืองสระบุรี ภายใต้การสั่งการของ
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ และคณะ พร้อมทีมสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.ภ.1 นำโดย พ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ภายใต้การกำกับของ พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.สระบุรี

จุดเริ่มต้นของการเข้าจับกุมมาจากการประชุม War Room จังหวัดสระบุรี ผ่านไลน์กลุ่ม “ประสานงาน ตร., ธนาคาร – จว.สระบุรี” ที่มีการแลกเปลี่ยนเบาะแสของเครือข่ายบัญชีม้าอย่างใกล้ชิด จนนำไปสู่การระบุตัวผู้ต้องหาและเข้าปฏิบัติการรวดเร็ว

ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 รายแรก แบ่งเป็นกลุ่มดังนี้:

1) กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชี นายเสฏฐวุฒิ , นายวิทยา ข้อหา: เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผิด ม.9 พ.ร.ก.ฯ 2566)

2) กลุ่มจัดหาบัญชี/ชักชวน นายวัฒนพงษ์ , นายเสวก ,น.ส.อรุณวจี
นางรัตนาภรณ์ ข้อหา: ชักชวน/จัดหา/ยินยอมให้ผู้อื่นเปิดบัญชีหรือใช้บัญชีเงินฝาก–เบอร์โทรศัพท์เพื่อใช้กระทำความผิด (ผิด ม.10 พ.ร.ก.ฯ 2566)

ซึ่งของกลางล็อตแรกที่ยึดได้ โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง , สมุดบัญชี 5 เล่ม , บัตร ATM 7 ใบ , รถยนต์ 1 คัน ,รถจักรยานยนต์ 1 คัน

พบหลักฐานจากมือถือของนายวัฒนพงษ์ ว่ามีการจ้างเปิดบัญชีรวม 20 บัญชี
เชื่อมโยงคดีหลอกประมูลนาฬิกา, หลอกจองที่พัก และอีกหลายเคส ถูกอายัดแล้วหลายบัญชีในระบบ TPO

วันที่ 24 พ.ย. 68 เจ้าหน้าที่รวมพยานหลักฐานขอหมายค้นบ้านของ น.ส.ศรีสุดา ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างกลุ่มจัดหา พบของกลางเพิ่มอีกหลายรายการ

กลางดึก 23 พ.ย. 68 ทีมสืบสวนเฝ้าติดตามพบกลุ่มผู้ต้องหาเดินทางไปสระแก้ว คาดเตรียมหลบหนี จึงประสาน ตชด.12 ร่วมสกัดจับได้ทั้ง 3 ราย ได้แก่ 1. น.ส.ศรีสุดา หรือ “กล้วย” , 2. นายสมพงษ์ หรือ “เป้” , 3. นายมานะ หรือ “นะ”

ตรวจยึดของกลางล็อตใหญ่ที่สุด
รถกระบะ Isuzu D-Max 1 คัน ,รถ Nissan Note 1 คัน , โทรศัพท์ใหม่ 24 เครื่อง , สมุดบัญชี 17 เล่ม , บัตรเอทีเอ็ม 66 ใบ , กล่องเก็บของมีบัญชี–ซิม–โทรศัพท์สำหรับทำบัญชีม้าเต็มกล่อง

ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือเผยแพร่เพื่อให้มีการซื้อ-ขาย-ให้เช่าบัญชีเงินฝาก หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้กระทำความผิดทางเทคโนโลยี”
ตามมาตรา 10 พ.ร.ก.ฯ 2566
ซึ่งนายมานะ และพวก เคยถูกจับด้วยข้อหาเดียวกันในพื้นที่ สภ.หนองแค สระบุรี มาก่อน

ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จของระบบ War Room จังหวัดสระบุรี ที่สามารถสกัดเครือข่ายบัญชีม้าต้นทาง ตั้งแต่ผู้รับจ้างเปิดบัญชี – ผู้จัดหา – ผู้หมุนบัญชี ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มจีนเทาในกัมพูชา

การตรวจยึดสมุดบัญชี–โทรศัพท์–บัตร ATM จำนวนมากคือการตัดเส้นทางกระแสเงินของอาชญากรออนไลน์โดยตรง และชุดสืบสวนเตรียม ขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเครือข่ายต่อไป

Ad 1
Ad 2