รวบหนุ่มคลั่งยา วิ่งราวแหวนทองกลางห้างย่านอ่อนนุช ตำรวจตามล็อกตัวใน 2 ชั่วโมง พร้อมของกลางยาไอซ์
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5, พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง, พ.ต.ท.ชวลิต ตรีหิรัญ รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง และ พ.ต.ท.กำพล กลั่นกสิกรณ์ รอง ผกก.ป.สน.พระโขนง
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันปราบปรามระดมกำลังติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ภายในห้างสรรพสินค้าย่านอ่อนนุช
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา นายชานน หรือ “ต๊อบ” เคร่งธรรมกิจ อายุ 26 ปี ได้ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง หลังหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ พร้อมของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนักสุทธิ 0.40 กรัม
2. แหวนทองคำหนักประมาณ 15.2 กรัม 1 วง
3. เอกสารการรับซื้อทองคำเก่าจำนวน 1 ฉบับ
เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.09 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวแหวนทองจากร้านทองภายในห้างย่านอ่อนนุช จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมสูง ผิวดำแดง มีรอยสักทั่วตัว จากการตรวจสอบฐานข้อมูลของฝ่ายสืบสวนพบว่าตรงกับลักษณะของนายชานน
หลังก่อเหตุ นายชานนได้หลบหนีไปทางแยกอ่อนนุช ก่อนขึ้นรถไฟฟ้า BTS มุ่งหน้าโลตัสสุขุมวิท 50 เพื่อขายทอง แต่เมื่อร้านทองภายในโลตัสไม่รับซื้อ จึงวิ่งหนีต่อไปบริเวณใต้สะพานพระโขนง กระทั่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ที่ปากซอยอ่อนนุช 1/1 พร้อมของกลางยาไอซ์หนึ่งถุง
จากการสอบสวน นายชานนรับสารภาพว่า เสพยาบ้าจนหลอนและก่อเหตุเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ค้ายา โดยได้นำแหวนทองที่วิ่งราวมาไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 71 ได้เงิน 57,000 บาท แบ่งให้เพื่อนร่วมก่อเหตุชื่อ “นายสันติ” 3,000 บาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้หนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลไปยังร้านทองดังกล่าวและยึดแหวนทองของกลางคืนได้ครบ พร้อมเอกสารการซื้อขาย
ตำรวจได้นำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ชั้น 2 บิ๊กซีอ่อนนุช ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดีในข้อหา
“วิ่งราวทรัพย์ และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถติดตามยึดเงินที่นำไปชำระหนี้คืนได้บางส่วน และอยู่ระหว่างขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
