วันศุกร์, พฤศจิกายน 7, 2025
หน้าแรกทั่วไปชื่นชมจราจรท่าข้ามไหวพริบดี จับ 7 แก๊งลักสายเคเบิ้ล พบพิรุธใบทำงานปลอม ก่อนสารภาพก่อเหตุโชกโชน นำไปขายร้านรับซื้อของเก่าย่านปทุมแบ่งเงินคนละ 2,000 บาท

ชื่นชมจราจรท่าข้ามไหวพริบดี จับ 7 แก๊งลักสายเคเบิ้ล พบพิรุธใบทำงานปลอม ก่อนสารภาพก่อเหตุโชกโชน นำไปขายร้านรับซื้อของเก่าย่านปทุมแบ่งเงินคนละ 2,000 บาท

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ชื่นชมจราจรท่าข้ามไหวพริบดี จับ 7 แก๊งลักสายเคเบิ้ล พบพิรุธใบทำงานปลอม ก่อนสารภาพก่อเหตุโชกโชน นำไปขายร้านรับซื้อของเก่าย่านปทุมแบ่งเงินคนละ 2,000 บาท

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 ต.ค.พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.9 พ.ต.อ.วิชยานนท์ เอกตาแสง ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.ท.สุระยุทธ ไขแสงจันทร์ รรท.รอง
ผกก.ป.สน.ท่าข้าม สั่งการ ร.ต.อ.ธีรวุฒิ วงษ์ศรีวอ รอง สวป.สน.ท่าข้าม, ส.ต.อ.ณรงค์วิทย์ นามเนาว์, ส.ต.อ.เธียรชัย ตั้งสกุลภักดีผบ.หมู่ (ป.) สน.ท่าข้าม, ร.ต.ต.ชนะชัย ไทยนิยม รอง สว.(จร.) สน.ท่าข้าม และ ด.ต.นิติ อัญชลีสังกาศ ผบ.หมู่ (จร.) สน.ท่าข้าม ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา รวม 7 ราย ดังนี้ 1. นายสมลักษณ์ ยิ้มปรีดา อายุ 40 ปี, 2.Ms. LATSAMY SANE อายุ 32 ปี สัญชาติลาว, 3.นายดามร มีวงน้อย อายุ 41 ปี, 4.นางสาวขวัญจิตร กองแก้ว อายุ 43 ปี, 5.นายวสันต์ ยิ้มปรีดา อายุ 44 ปี, 6.นายนพฤทธิ์ หาญอุสาหกิจ อายุ 25 ปี และ 7.นายสราวุฒิ ทองสวัสดิ์ อายุ 22 ปี พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ อาทิ คีมตัดสลักเกลียว (กรรไกรตัดเหล็ก) ยี่ห้อ CRV ขนาด 42 นิ้ว เบอร์ 1050 MM จำนวน 1 อัน, สายเคเบิลตัดเป็นท่อนขนาด 0.4*900P ความยาวประมาณ 120-140 เซนติเมตร จำนวน 130 ท่อน, เชือกยาว 10 เมตร 2 เส้น, แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กษ 6990 สระบุรี, รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น แจ็ส สีชมพู เลขตัวถัง MRHGD38805P102065 เลขเครื่อง L15A22905513 แผ่นป้ายทะเบียน กษ 6990 สระบุรี (ติดเพียงแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าเท่านั้น) และ รถกระบะบรรทุก ยี่ห้อ อีซูสุ สีเทา เลขตัวถัง MP1TFS86H8T100182 เลขเครื่อง 4JK1FF6874 แผ่นป้ายทะเบียน บร 7402 พระนครศรีอยุธยา โดยจับกุมได้ที่ศูนย์เยาวชนบางขุนเทียน พระราม 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ต.ค. เวลา 23.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้รับแจ้งศูนย์วิทยุว่า ขณะฝ่ายจราจรออกตรวจพื้นที่ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 7 คน พบตัวนายสมลักษณ์ กำลังตัดสายเคเบิลแบ่งเป็นท่อน ๆ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือกำลังนำสายเคเบิลที่ตัดแบ่งเป็นท่อนนั้นนำไปไว้ในรถแก๊งฮอนด้าแจ๊ส และรถกระบะบรรทุก จึงควบคุมตัวไว้ ก่อนตรวจค้นรถยนต์ของผู้ต้องหาจนพบของกลางดังกล่าว โดยมีผ้าใบสีดำคลุมปิดทับอยู่ท้ายกระบะ

ด้าน ด.ต.นิติ อัญชลีสังกาศ ผบ.หมู่ (จร.) สน.ท่าข้าม กล่าวว่า ขณะกำลังขี่รถกลับจากการตรวจเหตุเพลิงไหม้ เข้าซอยพระราม 2 ซอย 19 ได้เจอกลุ่มคนร้ายกำลังตัดสายไฟ ซึ่งบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด จึงสอบถามว่ามาทำอะไร โดยคนร้ายบอกว่ามาตัดสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ จึงสอบถามหาใบทำงานหรือไม่ ก่อนคนร้ายหยิบใบทำงานขึ้นมาให้ดู ตนสังเกตเห็นวันที่เป็นคนละวันกัน หรือ เอกสารปลอม จากนั้นตนได้ขอดูใบทำงานวันนี้แต่คนร้ายอ้างว่าลืมเอามา และจะให้คนนำมาให้ 5 นาที เมื่อผ่านไปนานผิดสังเกต เห็นว่ามีคนร้ายหลายคน จึงวิทยุหาสายตรวจให้มาช่วยตรวจสอบ ตรวจค้นรถครบของการจำนวนหลายชิ้น จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาที่โรงพัก เพื่อรอให้เอาเอกสารมายืนยัน กระทั่งผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพว่าของกลางทั้งหมดได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์มา

สอบสวน นายสมลักษณ์ ยิ้มปรีดา หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการลักสายเคเบิลมาแล้ว 4 ครั้ง ก่อนเริ่มก่อเหตุตัดสายเคเบิล เมื่อประมาณเดือน มกราคม 2568 ได้รู้จักกับนายก้อง (นามสุมมติ) ในเฟซบุ๊ก มาประมาณหนึ่งปีเศษ นายก้อง (นามสมมุติ) ชวนนายสมลักษณ์ฯ ไปก่อเหตุตัดสายเคเบิลโดย ครั้งแรกในเขตพื้นที่อุดมสุข โดยนายก้อง เป็นคนนำทีมพาไปก่อเหตุ ซึ่งทีมตัดสายเคเบิลเมื่อตัดสายเคเบิลเสร็จแล้ว ได้ส่งต่อให้ทีมขนย้าย ซึ่งนายสมลักษณ์ฯ และพวกอีก 4 คน เป็นทีมขนย้ายสายเคเบิล แล้วนำสายเคเบิลส่งให้นายก้องเป็นคนนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าชื่อร้านเฮียไก่ (นามสมมุติ) ที่คลอง 2 จ.ปทุมธานี เมื่อขายสายเคเบิลได้รับเงินมานายก้องจะเป็นคนโอนเงินส่วนแบ่งให้นายสมลักษณ์ฯ จำนวน 15,000 บาท โดยผ่านบัญชีธนาคารพี่สาวของนายสมลักษณ์ฯ จากนั้นนายสมลักษณ์ฯ ได้ให้พี่สาวโอนเงินมาที่บัญชีทรูวอลเล็ตของนายสมลักษณ์ฯ อ้างว่าเป็นค่าจ้างที่ตนได้ไปทำงานเดินสายไฟ เมื่อได้รับเงินมาแล้วตนนำเงินสดไปจ่ายค่าจ้างให้พวกอีก 6 คน คนละ 2,000 บาท

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี” จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

///

Ad 1
Ad 2