วันศุกร์, พฤศจิกายน 7, 2025
หน้าแรกประชาสัมพันธ์กัน จอมพลัง พร้อมด้วยนางสาวกาญจนา สถาวร หรือ "อีฟ" ประธาน "มูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้" ควงคู่แถลงข่าวปมดราม่า...

กัน จอมพลัง พร้อมด้วยนางสาวกาญจนา สถาวร หรือ “อีฟ” ประธาน “มูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้” ควงคู่แถลงข่าวปมดราม่า เงินบริจาค มูลนิธิ กันจอมพลังช่วยสู้ ณโรงแรมอัศวินแกรนด์คอนเวนชั่น

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

กัน จอมพลัง พร้อมด้วยนางสาวกาญจนา สถาวร หรือ “อีฟ” ประธาน “มูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้” ควงคู่แถลงข่าวปมดราม่า เงินบริจาค มูลนิธิ กันจอมพลังช่วยสู้ ณโรงแรมอัศวินแกรนด์คอนเวนชั่น

โดยนางสาวกาญจนา  ประธานมูลนิธิ กล่าวว่า ขออภัยที่ทำมูลนิธิออกมาตอบคำถามต่อสาธารณชนช้า ทั้งนี้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทางมูลนิธิมีการติดตามข่าวมาเสมอ แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกการตั้งคำถามของสังคมมุ่งไปที่ตัวของการจอมพลังโดยส่วนตัว ทางมูลนิธิ จึงตัดสินใจว่าจะไม่มีการตอบคำถามในส่วนนั้น จนกระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตั้งคำถามถึงมูลนิธิโดยตรง

จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว โดยการจัดตั้งมูลนิธิ กลั่นจอมพลังช่วยสู้ เริ่มที่ 5 แสนบาทมาจากกลุ่มเพื่อนกัน จอมพลัง ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบันเงินเข้ากว่า 200 ล้านบาท ถูกใช้ไปแล้วประมาณ 117 ล้านบาท
สำหรับประเด็นเรื่องข้อบังคับมูลนิธิข้อที่ 39 ประธานมูลนิธิฯ ยอมรับว่าการก่อตั้งมูลนิธิดังกล่าวถือเป็นน้องใหม่
ซึ่งหลักเกณฑ์การจัดตั้งมูลนิธิกำหนดไว้ว่า มูลนิธิ ต้องระบุมูลนิธิหรือองค์กรสาธารณะกุศลอื่นๆ ไว้รองรับหากทางมูลนิธิปิดตัวลง เพื่อให้รับช่วงต่อบริหารเงินบริจากตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาก หากไม่มีการทำตามวัตถุประสงค์ให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ซึ่งนับเวลานั้น เมื่อมีอีกข้อกำหนดดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มพวกตนก็เคยทำงานร่วมกับมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า และสนิทกับ คณะทำงานของมูลนิธิ ธรรมนัสพรหมเผ่า จึงขอคำปรึกษาและขอใช้ชื่อ ในข้อดังกล่าว โดยทางมูลนิธิ ได้รับหนังสือ อนุมัติให้จัดตั้งมูลนิธิ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 และ ได้ดำเนินการ ขอรับบริจาคครั้งแรกในช่วงตึกสตงถล่มเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งก่อนหน้านั้นเราไม่เคยมีการเรียกรับบริจาคแต่อย่างใด. ด้วยยอดเงินที่ทางมูลนิธิได้รับบริจาคทั้งสิ้น บริจาค 207,350,262.04 สตางค์ ปัจจุบันใช้เงินในมูลนิธิไป 117,673,106.02 สตางค์ ยอดคงเหลืออยู่ในบัญชีมูลนิธิ 90,177,156.02 สตางค์
พร้อมยืนยันว่าเงินที่ โอนเข้ามา ในบัญชี ของมูลนิธิ ไม่มีการ โยกย้ายไปที่มูลนิธิธรรมนัส แต่อย่างใด และไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากทางมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าด้วย ซึ่งตั้งแต่ จัดตั้งมูลนิธิมาทางมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้มีการโอนเงินไปยังมูลนิธิอื่นเพียง 2 มูลนิธิเท่า คือ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และมูลนิธิเพื่อนพึ่งพายามยาก โดย เงินที่บริจาคให้กับทั้งสองมูลนิธิเป็นเงินของบริจาคของแจ็คสันหวังนักร้องชื่อดัง ทั้งสองมูลนิธิ มูลนิธิละ 1 ล้านบาท 160,000 บาท และคงเหลือ กับทางมูลนิธิอีก 1 ล้าน 8819 บาท
มูลนิธิมีบัญชีธนาคาร เพียง 2 บัญชี 1 บัญชี ใช้เดินบัญชี อีก 1 บัญชี ยังคงว่างไม่มีการเคลื่อนไหวของบัญชีแต่อย่างใด
***ด้านการจอมพลัง ยืนยันและที่สำคัญ มูลนิธิไม่มีการเบิกถอนเงินสด หน้าเคาน์เตอร์ธนาคารแม้แต่ครั้งเดียว ทางมูลนิธิใช้วิธีการ โอนเท่านั้นเพื่อใช้เป็นหลักฐานและป้องกันปัญหาการทุจริต ดังนั้น หาก ใครระบุว่า มีการเบิกถอนเงินสดออกมา ขอให้นำเอกสารหลักฐานมา ยืนยัน ต่อสาธารณะชนด้วย
ส่วนประเด็น ทำไมตนถึง ไม่นั่งตำแหน่งประธานมูลนิธิ ณเวลานั้นตนต้องการให้เกิดความโปร่งใสในการบริหารจัดการเงินบริจาคของประชาชน แต่วันนี้มันเกิดข้อกังขาขึ้นมา ก่อนตัดสินใจที่จะ นั่งตำแหน่งประธานมูลนิธิ เพื่อให้ทุกคนสบายใจ
ส่วนประเด็นข้อกำหนด ข้อ 39 ตนกับทางคณะกรรมการ มูลนิธิจึงตัดสินใจ จะเปลี่ยน ชื่อมูลนิธิในข้อดังกล่าว ด้วย ซึ่งขณะนี้ได้โทรไปประสานและปรึกษากับมูลนิธิดังกล่าวแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นมูลนิธิใดเพียงยืนยันได้ว่าเป็นมูลนิธิหรือเป็นองค์กรสาธารณะที่มีความมั่นคงมีศักยภาพมาก ซึ่งหลังจากนี้ทุกคนสามารถตรวจสอบได้
กรณีของนายณวัฒน์ สิงหไกรศรี ที่บริจาคเข้ามาจำนวนเงิน 50,000 บาทและมีการเรียกร้องขอเงินคืน คนเชื่อว่าเงินของณวัฒน์น่าจะกลายเป็นถนนไปนานมากแล้วแต่เมื่อ นายณวัฒน์ไม่สบายใจ ในส่วนนี้ตนขอ ควักเงินส่วนตัว คืนให้นายณวัฒน์
เมื่อ สื่อมวลชน ถามถึงความสัมพันธ์ ของกันจอมพลังกับร้อย ร้อยเอกธรรมนัส พรมเพลา กันจอมพลังกล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักคุณธรรมนัสในฐานะนักการเมือง และสนิทในระดับนึง แต่ยอมรับ ตนไม่ได้แจ้ง ร้อยเอกธรรมนัส ว่าขอใส่ชื่อมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าในข้อกำหนด 39 ในการจัดตั้ง มูลนิธิแต่อย่างใด เพียงแต่ แจ้งเรื่องนี้กับคณะทำงานของทางมูลนิธิธรรมนัสเท่านั้น ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าตนใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวรับงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ตนรับว่า รับงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพียง 3 งานเท่านั้น ซึ่งงานและโครงการของกระทรวงเกษตร ปี 1 มีมากกว่า 5,000 งาน สื่อมวลชนบางคน ได้งานไป ปีละ 7 งานมากกว่าตนเท่าตัว

ทั้งนี้ระหว่างการแถลงข่าว เคลียร์ประเด็นต่างๆของการจอมพลัง เวลา 10.50 น. ไอซ์ รัชนก ศรีนอก สสพักประชาชน พร้อมนาย ณวัฒน์สิงหไกรศรี ได้เดินทางมา สังเกตการณ์การแถลงข่าวในวันนี้ด้วย
โดยไอซ์ ถามจันทร์จอมพลังว่าเหตุใดต้องโกหกประชาชน และผู้คนว่าไม่สนิทกับร้อยเอกธรรมนัส ทั้งที่ การจอมพลังได้รับความช่วยเหลือจากร้อยเอกธรรมนัสในหลายเรื่อง และยังระบุในข้อกำหนดมูลนิธิข้อ 39 ซึ่งการจอมพลัง ก็ตอบกลับว่าตนยอมรับว่าสนิท ไม่เคยปฏิเสธว่าไม่สนิท แต่ในสนิทใน พื้นฐานทั่วๆไป เช่นเดียวกันพร้อมให้การช่วยเหลือพรรคพลังประชาชน หาก โครงการนั้นมีประโยชน์กับประชาชน อย่างกรณี สแกมเมอร์
ด้านนายณวัฒน์ ถามกลับอีฟประธานมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ว่าที่ผ่านมาทำไมไม่ชี้แจงกับสังคมว่าคณะกรรมการของมูลนิธิมีใครและมีรายละเอียด ข้อกำหนด อย่างไรบ้าง และหาก ผู้บริจาค เงินให้กับ มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ต้องการเรียกร้องเงินคืน จากคืนเงิน ให้ผู้บริจาค หรือไม่ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว อีฟระบุว่าที่ผ่านมาตนไม่เคยปิด บังแต่อย่างใด เวลาไป บรรยาย หรือสัมมนา ที่ไหนก็จะใช้ตำแหน่งประธานมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้มาโดยตลอด ส่วนเหตุที่ไม่ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน เพราะเห็นว่า ในราชกิจจา ดูเบรกษา ก็ได้ประกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีคืนเงินกู้บริจาคได้หรือไม่ ตนและคณะกรรมการ มูลนิธิ จะให้คำตอบในวันจันทร์นี้ ก่อน 14:00 น
นายณวัฒน์ยังถามกันจอมพลังต่ออีกว่า หลังจากนี้จะลงเล่นการเมืองหรือไม่ ซึ่งกันจอมพลังตอบชัดเจนเสียงดังฟังชัด ไม่เล่นการเมืองโดยเด็ดขาด พร้อมตอบคำถามตบท้ายสื่อมวลชนว่าหลังเกิดกระแสดังกล่าว และเจอสถานการณ์ในวันนี้ ยอมรับว่า ท้อ จึงตัดสินใจถอย ยอมนั่งตำแหน่งประธานมูลนิธิให้เพื่อ ความสบายใจของทุกคน และจะงดการลงพื้นที่ ไปจนกว่าจะมีการตรวจสอบ มูลนิธิเสร็จสิ้น แต่การทำงานของมูลนิธิยังคงต้องเดินหน้าต่อไป โดยในวันนี้เวลา 14:00 น ตรงจะเดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบว่ามูลนิธิ กันจอมพลัง ทุจริตหรือไม่

Ad 1
Ad 2