สืบนครบาล5 บุกรวบบัญชีม้า อ้าง ถูกเพื่อนยืมบัญชี จนมีเงินเข้ากว่า2.5ล้าน ผู้เป็นแม่สุดช้ำ ส่งลูกเข้าฮ่องกง เนื่องจากฐานะยากจนไร้เงินประกันตัวลูก
ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5
พ.ต.ท.อติชาต แย้มผกา รอง ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.สส.บก.น.5
พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.สส.บก.น.5
ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สง่า สุวรรณเพชร
สว.กก.สส.บก.น.5 ชุดปฎิบัติการที่ 2
พร้อมกำลังได้ร่วมกันจับกุม นายขจรศักดิ์ เข็มทอง อายุ 37 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.975/2568 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2568 โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งภายในจังหวัดปราจีนบุรี
โดยกล่าวหาว่า “ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่น่าจะรู้หรือควรรู้ว่านะจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่น และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง โดยกระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกแจ้งแก่ประชาชน”
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าได้พบขจรศักดิ์ เข็มทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีดังกล่าวข้างต้น ได้มาปรากฏตัวที่จับกุมจึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบเพื่อจับกุม ปรากฏว่าพบชายไทยยืนอยู่มีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับคือนายขจรศักดิ์ฯจริง จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้ดูและให้อ่านเองจนเป็นที่เข้าใจและตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชนตรงกับบุคคลตามหมายจับและสอบถามรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับและยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งสิทธิ์ผู้ถูกจับตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่ง สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรับรายงานว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าว มีอาชีพทำงานก่อสร้างโรงงานเงินเดือนเพียง 7000 บาท ถูกเพื่อน ที่รู้จักกันไม่นานผ่าน Facebook ยืมบัญชีไปใช้ โดยอ้างว่าเพื่อนยืมบัญชีเพื่อไปกดเงิน ก่อนหายตัวไปและบล็อค Facebook ไม่สามารถติดต่อได้
จนกระทั่งมาทราบว่ามีเงินไหลเข้าบัญชีจำนวนกว่า 2,500,000บาท และตกเป็นผู้ต้องหาบัญชีมา
ขณะที่ทางด้านผู้เป็นมารดาของผู้ต้องหาสุดช้ำส่งลูกเข้าห้องขัง ไร้เงินประกันตัว เนื่องจากว่าจำนวนเงินที่เข้ามาในบัญชีมีจำนวนมากจึงต้องใช้เงินประกันตัวจำนวนสูงถึงหลักแสนบาท ซึ่งทางบ้านก็ฐานะยากจน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอยากฝากเตือน เป็นอุทาหรณ์สำหรับ ประชาชนที่กำลังตกเป็นเหยื่อบัญชีม้า หรือได้รับเงินว่าจ้างให้เปิดบัญชีม้า การเปิด “บัญชีม้า” ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างเปิด หรือการนำบัญชีตนเองไปให้ผู้อื่นใช้ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่จัดหาหรือโฆษณาเพื่อหาคนมาเปิดบัญชีม้าจะมีโทษหนักขึ้นถึง 2-5 ปี หรือปรับ 200,000-500,000 บาท บัญชีม้าใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวงและฟอกเงิน
