ร้องสายไหมต้องรอด ผัวหลอนยา ทุบตีเมีย จนเมียหนี บุกมาตามหาเมียที่บ้านญาติแต่ไม่พบ จึงทุบทำลายข้าวของในบ้าน ล่าสุดขับรถผ่านมาเจอรถญาติเมียกลางทาง คว้าก้อนหินวิ่งปาใส่กระจกหน้ารถ ก่อนเรียกพวกไล่ตามไปก่อเหตุทำร้ายซ้ำ ผู้เสียหายแจ้งความไปหลายครั้งคดีไม่คืบหน้า
วันนี้ 15 ตุลาคม 2568 คลิปวีดีโอจับภาพบริเวณหน้าบ้านของญาติ จะเห็นว่ามีชายเสื้อแดงซึ่งเป็นอดีตสามีของผู้เสียหาย หยิบก้อนหินก้อนใหญ่แล้วปาใส่กระจกรถ ทำให้รถคันดังกล่าวพยายามขับชนชายเสื้อแดง แต่ชายเสื้อแดงหลบทัน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บมาก จากนั้นใส่เสื้อแดงได้เดินตามหาเรื่องรถของญาติภรรยา
ด้วยความอัดอั้นตันใจ ผู้เสียหายจึงมาร้องความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ระบายให้ทีมข่าวฟังว่า ผู้ก่อเหตุชื่อว่านาย โกมินทร์ หรือ มิน อดีตสามีที่คบหากันมานานเกือบ 20 ปี จนมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน อายุ 15 ปี แรกเริ่มนายมิน เป็นคนปกติ ทำงานทำการ กระทั่งหลังมีลูกได้เพียงแค่ 3 ปี นายมินก็เริ่มมีเสพยาเสพติด ทุกครั้งที่เสพก็มีอาการหลอน ชอบทำร้ายร่างกาย ทุบตี เวลาที่ไม่ได้เสพยา ก็จะมาบอกว่าขอให้อดทน จะเลิกยาแล้ว ผ่านไปได้เพียงแค่ 2-3 วัน นายมินก็กลับไปเสพยาเสพติดแล้วมาทำร้ายร่างกายตนเหมือนเดิม หนักสุดที่ตนเคยโดนคือโดนลากไปตี เตะ กลางถนน เคยทำร้ายร่างกายตนต่อหน้าลูก และเคยกักขังหน่วงเหนี่ยวตน พร้อมกับลูก
ส่วนสาเหตุที่ต้องทนเพราะตอนนั้นพ่อแม่ของตนป่วย จึงต้องย้ายไปอยู่กับนายมิน จึงทำให้ไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกทั้งนายมินยังข่มขู่อีกว่าจะทำร้ายร่างกายพ่อแม่ของตนด้วย เคยปาของใส่พ่อแม่ ปัจจุบันพ่อแม่ของตนเสียแล้วตนจึงหลบหนีออกมา ทุกวันนี้ตนต้องหนีไปอยู่กับเพื่อนสนิท
ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังอีกว่า ช่วงแรกที่โดนทำร้ายร่างกาย ตนเคยหลบหนีออกมาแล้ว 1 ครั้ง และไปแจ้งความเอาผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พอนายมินออกมา ก็ลากตนเข้าไปที่โรงแรม แล้วเอาผ้าขนหนูรัดคอ ส่วนเรื่องอาวุธปืน ผู้เสียหายบอกว่า นายมิน เคยเอาปืนมาที่หัวข่มขู่ตน 1 ครั้ง ก่อนจะมาทราบในภายหลังว่าปืนกระบอกนั้นเป็นปืนปลอมส่วนปืนกระบอกอื่นนั้นตนไม่ทราบ
สุดท้ายนี้ยังอยากจะฝากไปบอกนายมินว่า อยากจะให้มามอบตัว ไม่อยากยุ่งอะไรด้วยแล้ว เพราะตนต้องทนทุกข์มานาน กว่า 17 ปี ตอนนี้ ไม่หลงเหลือความรักต่อกันอีกแล้ว
ทางด้านของ นายณัฎฐ์ธนัน แสงจันทร์ อายุ 37 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองเปิดร้านเฟรนฟรายและร้านทำเล็บให้กับลูกสาว ภายในซอยถนนเลียบคลองเปรมประชากร ปทุมธานี
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 นายมิน ได้ขี่รถ จยย. มาที่หน้าร้านแล้วปาขวดเบียร์เข้ามาในร้าน 3 ขวด จากนั้นได้ส่งข้อความแชทมาหาตนเองว่า ให้พาบัว อดีตภรรยาออกมา แต่ตนเองบอกว่า บัวไม่ได้อยู่ที่นี่ จากนั้นนายมินได้ขี่รถหลบหนีไป ทำให้ตนเองต้องปิดร้านขายของไป 2 วัน พอเปิดร้าน นายมินก็จะขี่รถนำขวดเบียร์มาปาที่หน้าร้านอีก ทำให้ตนเองต้องปิดร้านอีก 2-3 วัน พอกลับมา นายมินก็ทำแบบเดิม ทำให้ตนเองต้องยอมปิดร้านยาวเป็นเดือน สูญเสียรายได้
ต่อมาวันที่ 12 ตุลาคม 2568 ขณะที่ตนเองกำลังขับรถยนต์ออกจากร้าน นายมิน ได้มาที่หน้าร้านอีกครั้ง แล้วหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ ปาใส่กระจกหน้ารถที่ตนเองขับอยู่ ด้วยความตกใจตนพยายามขับรถหลบหนีเพราะกลัวว่านายมีนจะพกอาวุธมาด้วย ทำให้รถไปเฉียวนายมินและกระถ่างต้นไม้ที่หน้าร้าน
จากนั้นนายมินได้ซ้อนรถ จยย.เพื่อน แล้วชักปืนขึ้นมา ตนเองต้องขับรถเบี่ยงหลบ เสียหลักชนเสาไฟข้างทางทำให้แอร์แบคในรถยนต์ทำงาน ทำให้ตนเองสลบไปครู่หนึ่ง จากนั้นนายมินได้เข้ามารุมทำร้ายตนเอง โดยเอากุญแจรถมอเตอร์ไซค์มาใส่เป็นสนับมือแล้วต่อยตนเอง ทำให้กุญแจรถ จยย.นายมินตกลงในรถ นายมินไม่สามารถหลบหนีได้ จึงโทรเรียกรถ จยย. อีกคันขี่มารับแล้วหลบหนีไป
ส่วนสาเหตุที่นายมินก่อเหตุ คาดว่ามาจากเรื่องที่นายมินคิดว่า ตนเองให้ความช่วยเหลือนางบัวซึ่งเป็นน้องสาวของตนเอง
หลักจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกให้ ใจเย็นๆ และคดีความไม่คืบหน้า พยายามบ่ายเบี่ยง บอกให้ตนเองไปหาหลักฐานเอง ซึ่งตนเองและครอบครัวเกรงความไม่ปลอดภัย เนื่องจากคู่กรณีมีปืน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งดำเนินคดี
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า กรณีนี้เกิดขึ้นในหลายๆพื้นที่ ในจังหวัดปทุมธานี จึงอยากให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ อยากให้กวาดล้างเพราะทราบว่าขบวนการนี้อยู่กันเป็นแก๊ง








