วันจันทร์, ตุลาคม 20, 2025
หน้าแรกภูมิภาคสลด! พบแล้วศพพ่อเฒ่าวัย 74 พายเรือหาปลาหายไป 3 วัน พบอีกทีกลายเป็นศพลอยอืดในลำห้วย

สลด! พบแล้วศพพ่อเฒ่าวัย 74 พายเรือหาปลาหายไป 3 วัน พบอีกทีกลายเป็นศพลอยอืดในลำห้วย

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

สลด! พบแล้วศพพ่อเฒ่าวัย 74 พายเรือหาปลาหายไป 3 วัน พบอีกทีกลายเป็นศพลอยอืดในลำห้วย

วันนี้ ( 17 ต.ค.68 ) ผู้สื่อข่าวของเรารายงานว่า จากกรณีนายทวี (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี เป็นราษฎรหมู่ที่ 4 บ้านโนนเกษม ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้ออกจากบ้านไปหาปลาที่ฝายโนนเกษม(ฝายโนนเหลื่อม) ซึ่งเป็นฝายกั้นลำห้วยพับ โดยนั่งเรือพายไปตามลำน้ำห้วยจากบ้านโนนเกษมมุ่งหน้าไปทางบ้านห่องชัน หมู่ที่ 9  ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ แล้วหายไป ตั้งแต่ช่วงเวลากลางวันเมื่อวันที่ 15 ต.ค.68 ที่ผ่านมา ญาติพี่น้องออกติดตามหาก็ไม่พบ  จนท.กู้ชีพท่าลาด กู้ชีพบุ่งหวาย ได้ออกเหตุร่วมกับหน่วยกู้ภัย ช่วยกันค้นหาตามลำห้วยและที่ฝายโนนเหลื่อม บ้านโนนเกษม แต่ไม่พบร่างนายทวี แต่อย่างใด

และในวันนี้ ( 17 ต.ค.68 ) นายเกรียงไกร วงค์สุทา จนท.กู้ชีพ ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ แจ้งผู้สื่อข่าวของเราว่า วันนี้ ( 17 ต.ค.68 ) พบศพนายทวี แล้ว โดยเมื่อเช้าวันนี้ราษฎรบ้านห่องชัน หมู่ที่ 9 ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ได้ออกไปดูเบ็ดที่ดักปลาในลำห้วยพับใกล้กับสะพานข้ามห้วย แล้วพบศพลอยอืดนอนคว่ำหน้าอยู่ริมฝั่งใกล้สะพาน จึงแจ้งชาวบ้านและผู้นำชุมชน ก่อนช่วยกันนำร่างไร้วิญญาณขึ้นมาริมฝั่ง และทราบในเวลาต่อมาว่า ผู้ตายคือนายทวี ราษฎรบ้านโนนเกษม ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ที่ญาติแจ้งว่าหายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงกลางวันของวันที่ 15 ต.ค.68 ที่ผ่านมา

นายเกรียงไกร วงค์สุทา เล่าอีกว่า จุดที่พบศพนายทวี เป็นพื้นที่บ้านห่องชัน หมู่ที่ 9 ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ อยู่ห่างจากฝายโนนเกษม(ฝายโนนเหลื่อม) บ้านโนนเกษม ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายและเป็นจุดเกิดเหตุ ไกลถึง 3 กิโลเมตร คาดว่า ขณะที่นายทวีกำลังพายเรืออาจจะเกิดอาการหน้ามืดจึงเป็นลมพลัดตกจากเรือ หรือ ไม่ก็เรือถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดจนเรือโคลงแล้วพลิกคว่ำเป็นเหตุให้นายทวีพลัดตกจากเรือแล้วถูกกระแสน้ำเชี่ยวบริเวณฝายน้ำล้นพัดร่างจมหายไป จนกระทั่ง วันนี้ ศพได้ลอยโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำจนมีคนไปพบเห็นดังกล่าว นับวันที่นายทวีจมน้ำหายไป เป็นเวลา 3 วันพอดี และ จากการตรวจสอบชันสูตรศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด  ญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ จนท.ตำรวจจึงนำศพส่งนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปประอบพิธีทางศาสนาต่อไป

Cr. ภาพ :  เกรียงไกร วงค์สุทา

//////////////////////////////////////////   กิตติภณ / ข่าว.

Ad 1
Ad 2