วันเสาร์, พฤศจิกายน 8, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจภูธรภาค 1 ทลายเครือข่ายลักลอบขน "บุหรี่ไฟฟ้า" ล็อตใหญ่จากภาคใต้เข้าพื้นที่ภาคกลาง ยึดของกลางกว่า 48,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง...

ตำรวจภูธรภาค 1 ทลายเครือข่ายลักลอบขน “บุหรี่ไฟฟ้า” ล็อตใหญ่จากภาคใต้เข้าพื้นที่ภาคกลาง ยึดของกลางกว่า 48,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ตำรวจภูธรภาค 1 ทลายเครือข่ายลักลอบขน “บุหรี่ไฟฟ้า” ล็อตใหญ่จากภาคใต้เข้าพื้นที่ภาคกลาง ยึดของกลางกว่า 48,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย

เมื่อวันที่ (14/10/68) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) แถลงผลการปฏิบัติการกวาดล้างและจับกุมเครือข่ายลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายล็อตใหญ่ โดยสามารถยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้กว่า 48,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 ได้ขยายผลจากการจับกุม นายจีรพิวัฒน์ คนขับรถบรรทุก ซึ่งลักลอบลำเลียงบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 4,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เข้าสู่พื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนพหลโยธิน 3 แยกไฟแดงนิคมสร้างตนเอง จังหวัดลพบุรี

จากการขยายผลอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจากพื้นที่ภาคใต้ และเตรียมกระจายต่อในพื้นที่ภาคกลาง จึงนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 ราย ซึ่งทำหน้าที่ขับรถขนส่งของกลางจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อไปส่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ

จากการตรวจค้นรถกระบะตู้ทึบที่ใช้ขนส่ง พบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมหาศาล รวมทั้งสิ้นกว่า 48,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขับรถขนส่งบุหรี่ไฟฟ้าในแต่ละเที่ยวเป็นเงิน 3,000 บาท โดยจะนำรถไปจอดไว้ตามจุดนัดหมายที่กำหนด เพื่อให้ผู้ร่วมเครือข่ายมารับช่วงต่อและนำของกลางไปกระจายให้กับผู้ค้ารายย่อยต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซึ่งเกี่ยวกับการนำหรือพาของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง (ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าจัดเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้า) ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นิคมสร้างตนเอง จังหวัดลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Ad 1
Ad 2