วันอังคาร, กันยายน 30, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมจับเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ยึดไอซ์ครึ่งตันกลางทะเลภูเก็ต ก่อนลำเลียงไปประเทศที่สาม

จับเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ยึดไอซ์ครึ่งตันกลางทะเลภูเก็ต ก่อนลำเลียงไปประเทศที่สาม

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

จับเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ยึดไอซ์ครึ่งตันกลางทะเลภูเก็ต ก่อนลำเลียงไปประเทศที่สาม

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส., พล.ร.ท.ทรงฤทธิ์ ฉัตรเงิน ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล, พล.ร.ต.ภุชงค์ รอดนิกร รองผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 3 และรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3, พล.ร.ต.ปณิธิ ทองเจือ ผู้อำนวยการสำนักการข่าวกรมข่าวทหารเรือ, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง,พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ และ พ.ต.อ.สรวิศ เสมอใจ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 4 คน (เสียชีวิต 1 คน เนื่องจากกระโดดลงน้ำหลบหนีขณะจับกุม พร้อมโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญ ซึ่งกองบังคับการตำรวจน้ำ ใช้นักประดาน้ำเก็บกู้โทรศัพท์กลับมาได้) พร้อมไอซ์ 502 กก. คีตามีน 600 กรัม ภายในห้องอับเฉาใต้ท้องเรือ บนเรือบรรทุกผู้โดยสาร (เรือไดร์ฟวิ่ง) สัญชาติไทย ชื่ออิลิกเซอร์ (Elixir) เหตุเกิดที่ ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต ขยายผลตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.ระนอง 3 จุด ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่า 5 ล้านบาท

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก ห้วงเดือนกันยายน 2568 กรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) ดำเนินการสืบสวนเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางเรือ ทราบว่าเตรียมลำเลียงยาเสพติดปริมาณมากไปยังประเทศที่สาม จึงประสานการข่าวมายัง สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ตนจึงได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. สั่งการ ชุดปฏิบัติการ ประสานความร่วมมือระหว่าง สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส., กก.8 บก.รน., ขว.ทร., ทรภ.3, ศรชล.ภาค 3, บก.ปส.4 บช.ปส. และ กก.สส.ภ.จว.ระนอง ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติการณ์เครือข่ายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่งพบเรือสัญชาติไทยต้องสงสัย ชื่อ “อิลิกเซอร์ (Elixir)” แล่นมาจาก จ.ระนอง และจอดอยู่ในทะเลอันดามัน บริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต โดยมีลักษณะผิดปกติจากเรือทั่วไป และบุคคลในเรือมีท่าทีพิรุธ ต้องสงสัยว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในเรือ ชุดปฏิบัติการจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นเรือลำดังกล่าว ในวันที่ 24 กันยายน 2568 สามารถจับกุมผู้ต้องหา 4 คน (เสียชีวิต 1 คน เนื่องจากกระโดดลงน้ำหลบหนีขณะจับกุม) พร้อมไอซ์ 502 กก. คีตามีน 600 กรัม ภายในห้องอับเฉาใต้ท้องเรือ นอกจากนี้ยังพบเครื่องบรรจุภัณฑ์สุญญากาศ จักรเย็บปากกระสอบแบบมือถือ และถุงชาเปล่าจำนวนมาก เหตุเกิดที่ ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่า 5 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 25 กันยายน 2568 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ บก.สส.ภ.8, กก.8 บก.รน., ภ.จว.ระนอง, สภ.สุขสำราญ และ ฉก.ร.25 ร้อย ร.2521 (จุดตรวจ กม.70) ขยายผลตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหา ในพื้นที่ จ.ระนอง จำนวน 3 จุด ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ห้วงเดือนกันยายน 2568 เรืออิลิกเซอร์ (Elixir) แล่นออกจาก จ.ระนอง ไปรับไอซ์ จำนวน 40 กระสอบ (คาดว่าปริมาณ 1 ตัน) จากบริเวณใกล้เกาะสอง เมียนมา (โดยบรรทุกมาในเรือหางยาว 1 ลำ คนขับและลูกเรือเป็นชาวเมียนมา รวม 2 คน) จากนั้นแล่นเรือไปบริเวณน่านน้ำ จ.สตูล เพื่อรอส่งยาเสพติด
แต่ไม่มีผู้มารับ จึงนำเรือกลับไปที่ท่าเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต มีชายอีก 2 คน นำเครื่องบรรจุภัณฑ์สุญญากาศ จักรเย็บปากกระสอบแบบมือถือ และถุงชาเปล่าจำนวนมาก ขึ้นมาบนเรือ หลังจากนั้นบุคคลทั้งหมดได้ร่วมกัน นำไอซ์มาใส่บรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้ (ถุงชาเปล่า) โดยใช้เวลา 3 วัน จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาจึงนำไอซ์ จำนวน 20 กระสอบ (คาดว่าประมาณ 500 กก.) ไปส่งบริเวณน่านน้ำ จ.สตูล อีกครั้ง โดยมีเรือสปีดโบ๊ทมารับไป ส่วนไอซ์ที่เหลือประมาณ 20 กระสอบ เตรียมลำเลียง ส่งบริเวณพื้นที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่เนื่องจากสภาพอากาศยังไม่เอื้ออำนวย ทำให้เรือลำดังกล่าวต้องจอดรออยู่บริเวณอ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ไอซ์ 502 กก. คีตามีน 600 กรัม ภายในเรือลำดังกล่าว

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ความสำเร็จของการจับกุมดังกล่าว มาจากการบูรณา
ด้านข่าวและการสืบสวนร่วมกับกรมข่าวทหารเรือ และความร่วมมืออันดีจากหน่วยงานภาคีที่ปฏิบัติการร่วมกัน (ตำรวจ ทหาร) รวมกำลังพลกว่า 100 นาย ที่ร่วมกันสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปประเทศที่สาม ปัจจุบันพบว่าเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยังคงลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านการขนส่งทางเรืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 พบการจับกุมในน่านน้ำทะเลที่ประเทศไทย จำนวน 6 คดี ของกลางไอซ์ 7.3 ตัน และ พบข้อมูลการจับกุมที่ต่างประเทศบริเวณน่านน้ำสากลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้ จำนวน 9 คดี ของกลางไอซ์ 18.1 ตัน คีตามีน 3.4 ตัน ประเทศปลายทางของยาเสพติด คือ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะร่วมกับหน่วยงานภาคี บูรณาการด้านการข่าว และยกระดับความเข้มงวดในการลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เป็นพื้นที่เสี่ยงในการลักลอบส่งออกยาเสพติดทางทะเลของประเทศไทย เพื่อสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังปลายทางประเทศที่สามโดยกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และจะสืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ถึงระดับนายทุนผู้สั่งการ เพื่อขยายผลสืบหาทรัพย์สินและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีและเตรียมปฏิบัติการยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมายต่อไป

Ad 1
Ad 2