วันพุธ, กันยายน 24, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมสืบนครบาลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จับผู้ต้องหา หลอกโอนเงินซื้อทองคำออนไลน์ มูลค่า 4.5 ล้านบาท ขยายผลค้นห้องพักพบเอกสารนิติบุคคล-บัญชีม้า-ยาบ้า

สืบนครบาลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จับผู้ต้องหา หลอกโอนเงินซื้อทองคำออนไลน์ มูลค่า 4.5 ล้านบาท ขยายผลค้นห้องพักพบเอกสารนิติบุคคล-บัญชีม้า-ยาบ้า

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

สืบนครบาลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จับผู้ต้องหา หลอกโอนเงินซื้อทองคำออนไลน์ มูลค่า 4.5 ล้านบาท ขยายผลค้นห้องพักพบเอกสารนิติบุคคล-บัญชีม้า-ยาบ้า

พลตำรวจตรีวสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) พร้อมด้วยพลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และพันตำรวจเอกอรรชวศิษฎ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผู้กำกับสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังขยายผลเข้าตรวจสอบที่ชั้น 8 โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วอร์รูมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตรวจสอบพบการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ มีการโอนเงินจำนวน 4,500,000 บาท ไปซื้อทองคำ จำนวน 80 บาท ผ่านทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คน ที่ไปรับทองคำย่านเยาวราชได้ให้ข้อมูลว่ามีการเปิดห้องพักแห่งนี้เป็นที่สั่งการให้ไปกดเงินและรับทอง

จากการเข้าตรวจค้นห้องพักที่ชั้น 8 พบเป็นห้องสูทขนาดใหญ่ มีตราประทับของบริษัทนิติบุคคล 10 บริษัท, เอกสารรับรองการเปิดบริษัท, สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, ถุงใส่ทองคำ 3 ถุง, ยาบ้า 10 มัดรวม 1,000 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ นอกจากนี้ยังพบห้องพักที่บริเวณชั้น 7 อีก 5 ห้อง ซึ่งใช้เป็นห้องพักและห้องทำงานย่อยๆ ทั้งนี้สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่จุดนี้เป็นชายได้อีก 3 คน

สอบปากคำหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ รับว่าถูกชักชวนผ่านทางแอปพลิเคชั่นเข้ามาทำงานในบริษัทเงินกู้ที่ถูกเปิดบังหน้าในการรับโอนและกดเงินบัญชีม้า โดยในแต่ละวันจะมีหน้าที่สแกนใบหน้าเพื่อโอนเงิน และออกไปรับทองตามร้านต่างๆ โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 ถึง 50,000 บาท ส่วนยาบ้าที่เจอ เขารับสารภาพว่าเสพเองวันละ 10 เม็ด ร่วมกับการดื่มน้ำกระท่อม โดยจะมีผู้จัดหายาเสพติดและอาหารมาให้

ด้านพลตำรวจตรีวสันต์ บอกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีรูปแบบระงับยับยั้งเงินก่อนที่จะเกิดความเสียหาย เป็นการทำงานเชิงรุก จากเมื่อก่อนที่จะต้องรอให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ แต่ปัจจุบันตำรวจได้เข้ายับยั้งเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้ามาขบวนการนี้ได้มากกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับขบวนการนี้มีการหลอกลวงผู้เสียหาย 2 คนในพื้นที่สน.พญาไทและ สน.บางโพ ให้โอนเงินเข้ามาที่บัญชีธนาคารของบริษัทนิติบุคคล ยอดรวมประมาณ 4,500,000 บาท ระหว่างนั้น ทางวอร์รูมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจพบลักษณะการโอนเงินที่ผิดปกติ จึงสั่งเฝ้าติดตามเส้นทางการเงิน พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจแต่ละพื้นที่เตรียมเข้าตรวจสอบ

กระทั่งพบว่าเงินจำนวนดังกล่าว ถูกโอนผ่านเข้าแอปพลิเคชั่นซื้อขายทองคำออนไลน์ของห้างทองชื่อดัง เพื่อซื้อทองคำรวมน้ำหนัก 80 บาท และเตรียมเดินทางไปรับทองคำจำนวนดังกล่าวที่ห้างทองย่านเยาวราช ตำรวจชุดสืบนครบาลและชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 จึงเฝ้าติดตามกระทั่งพบหญิง 2 คนเป็นผู้ไปรับทองคำ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่สน.จักรวรรดิ ก่อนจะขยายผลมาตรวจสอบที่ห้องพักแห่งนี้ โดยข้อมูลทั้งหมดได้รับแจ้งช่วงเที่ยงที่ผ่านมาและสามารถขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ชุดจับกุมยังไม่ทราบรายละเอียดว่าพฤติการณ์การหลอกลวงผู้เสียหายของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวเป็นอย่างไร เตรียมเรียกผู้เสียหายแต่ละคนเข้าให้ปากคำ โดยในพื้นที่สน.พญาไท ผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความในวันพรุ่งนี้ และที่สน.บางโพจะเข้าแจ้งความในวันศุกร์นี้ เพื่อขยายผลให้ถึงผู้ร่วมขบวนการทุกคน

Ad 1
Ad 2