วันเสาร์, กันยายน 20, 2025
หน้าแรกวงการสีกากีตม.สนามบิน โต้รอยเตอร์ บิดเบือน ตม.ไทยเอี่ยวลักพาต่างชาติเข้าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์

ตม.สนามบิน โต้รอยเตอร์ บิดเบือน ตม.ไทยเอี่ยวลักพาต่างชาติเข้าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ตม.สนามบิน โต้รอยเตอร์ บิดเบือน ตม.ไทยเอี่ยวลักพาต่างชาติเข้าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์

 

ตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้มีการนำเสนอข่าว โดยทำเป็นภาพการ์ตูน เขียนเป็น story ผูกเรื่องว่า ได้ทำการสัมภาษณ์คนต่างชาติ 9 คน เป็นคนสัญชาติในทวีปแอฟริกาใต้ เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงได้มีการสัมภาษณ์ชายต่างชาติแอฟริกาตะวันออก ระบุชื่อเพียง ” โอลี ” เป็นที่ปรึกษาด้านไอที อายุประมาณ 30 ปีเศษ ซึ่งเดินทาง จากเอธิโอเปีย เข้าไทย ในช่วงเดือน พ.ย.2567 เพื่อเยี่ยมเพื่อน และอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ ตม. เพศหญิง เรียกตรวจหนังสือเดินทาง ก่อนพาส่งให้ เจ้าหน้าที่โรงแรมที่เข้ามารับยังจุดสายพานรับกระเป๋า ก่อนพาขึ้นรถออกนอกเส้นทาง ไปถึงแม่สอด โดยรู้สึกตัวว่าขับออกนอกเส้นทาง แต่เผลอหลับตลอดทาง จนถูกพาข้ามแดน บังคับไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่เมียนมาร์ โดยต่อมามีสื่อมวลชน ของไทย บางสำนักนำข่าวดังกล่าวไป เผยแพร่ จั่วหัว แฉ ตมไทย เอี่ยวลักลอบพาตัวไปเป็นแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ สร้างความเสียหาย ให้กับ ภาพลักษณ์ของ สตม.ไทย และ ประเทศไทยโดยรวม

ล่าสุด เมื่อ 20 ก.ย.2568 พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ได้เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าวว่า ข่าวดังกล่าว เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยกล่าวว่า ได้สั่งตรวจสอบชื่อ คนต่างชาติที่ใช้อักษรสะกดทั้งตรงและทั้งสะกดใกล้เคียงคำว่า โอลี ซึ่งเข้าไทยช่วง พ.ย.2567 ตามที่รอยเตอร์กล่าวอ้าง พบว่า มีคนต่างชาติชื่อใกล้เคียงจำนวน 62 คน เกิดในแอฟริกาเพียง 2 คน คือ ชายชาวอูกานดา มาจากโดฮา เข้าไทยที่ภูเก็ต เมื่อ 5 พ.ย.67 และออก 14 พ.ย.67 อีกราย เป็นหญิงชาวเคนยา มาจากดูไบเมื่อ 28 พ.ย.67 ออกจากไทยเมื่อ 5 ธ.ค.67 โดยทั้ง 62 ราย ไม่มีใครมาจากเอธิโอเปีย

 

นอกจากนั้น การอ้างว่า มีพนักงานโรงแรมมารับที่จุดรับกระเป๋าที่สายพาน ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องมีบัตรเข้าพื้นที่หวงห้ามของการท่าฯ ขนาดตนเองเป็น ผบก.ตม.2 มีหน้าที่โดยตรง หากลืมบัตร ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้

 

นอกจากนั้น การเดินทางโดยรถจากสุวรรณภูมิ ไปแม่สอด ต้องใช้เวลา ไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง แต่กลับอ้างว่าหลับตลอดทาง ทั้งๆที่รู้ว่า มีการขับออกนอกเส้นทาง โดยไม่ขัดขืน หรือขอความช่วยเหลือ

 

ซึ่ง พล.ต.ต.เชิงรณฯ กล่าวว่า ข่าวรอยเตอร์ดังกล่าว ทำเป็นภาพการ์ตูน ผูกเรื่องจินตนาการเป็นนิยายที่ย้อนแย้งในหลักความเป็นจริง ซึ่งไม่เข้าใจเจตนาว่า สำนักข่าวดังกล่าว สร้าง Story นี้ เพื่อเหตุผลใด นอกจากนั้น ยังตั้งข้อสังเกตุว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง ก็เพิ่งสร้างสารคดี ” ด้านมืดประเทศไทย ” หรือ Dark Side of Paradise ” ใส่ร้ายให้ไทยกลายเป็นดินแดนที่น่ากลัว

 

พล.ต.ต.เชิงรณฯ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. รวมถึง พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้มีนโยบาย ให้ ด่าน ตม.ทั่วประเทศ โดยเฉพาะด่านตม.สนามบินทุกแห่ง เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองคนต่างชาติ โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมาย ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

 

1. กลุ่มคนสัญชาติเฝ้าระวัง ที่เสี่ยงต่อการเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศแอฟริกา และ เอเซียใต้ ด้วยนั้น จะมีการเพิ่มมาตรการคัดกรองที่ ตม.สนามบิน โดยตรวจสอบ วีซ่า ตั๋วเดินทางกลับ แผนการท่องเที่ยว ที่พักที่สามารถยืนยันได้ มีครบหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีการพิจารณาตรวจสอบประวัติการเดินทาง หากพบว่าเคยผ่านเข้าออกที่ชายแดนเมียนมาร์ และกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็จะถูกปฏิเสธการเข้าเมืองทุกราย โดยตั้งแต่ ม.ค.2568 เป็นต้นมา มีการปฏิเสธการเข้าเมืองไป 16,538 ราย เป็นคนเอเซียใต้ และแอฟริกา 303 ราย

2. กลุ่มคนต่างชาติที่เสี่ยงตกเป็นเหยื่อ หลอกให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจะสังเกตจาก มีการเดินทางเข้าประเทศไทยครั้งแรก มีบุคลิกหน้าตาที่ดี ไม่มีแผนการท่องเที่ยว ไม่มีแผนการเดินทางกลับ ไม่ระบุที่พักชัดเจน จะมีการสัมภาษณ์และแจ้งเตือน ว่าอาจเป็นเหยื่อ ของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจัดทำเป็นเอกสารสัมภาษณ์ เพื่อบันทึกข้อมูลการติดต่อรายละเอียดและที่พัก ให้ชัดเจน โดยตั้งแต่ ม.ค.2568 ถึงปัจจุบัน มีการสัมภาษณ์ไปแล้ว 5,278 ราย ทั้งนี้สำหรับ รายที่ไม่ซื้อตั๋วเดินทางกลับ หรือ ซื้อที่พักในประเทศ ก็จะปฏิเสธการเข้าเมืองเช่นกัน

 

นอกจากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคงบริเวณแนวชายแดน โดยเฉพาะ จังหวัดตาก ยังมีการตั้งด่านความมั่นคง เพื่อคัดกรองคนต่างชาติที่เข้าพื้นที่อย่างเข้มงวด ในรายที่มีข้อสงสัย ว่าจะเดินทาง เข้าไป ยังประเทศเพื่อนบ้าน จะมีการทำบันทึกประวัติ ลงระบบไว้ ทุกราย

 

ยังไม่รวมถึง การประสานงานกับรัฐบาลต่างประเทศในการร่วมกันสกัดกั่นกวาดล้าง การเคลื่อนย้ายของกลุ่มขบวนการที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน รวมถึง ไทยยังให้การช่วยเหลือต่างชาติที่ได้รับการช่วยเหลือจากการกวาดล้างในเมียนมาร์ กลับประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่คนเหล่านี้ จะอ้างตนเป็นเหยื่อเพื่อหลบเลี่ยงการตกเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์หลอกประชาชนในชาติตัวเองไว้ ซึ่ง ตม.สนามบิน จะขึ้นบัญชีเฝ้าดูคนเหล่านี้ในระบบไม่ให้สามารถใช้ไทยเป็นทางผ่านได้อีกในครั้งต่อไป

 

” ดังนั้นการกล่าวหา ของสำนักข่าวรอยเตอร์ จึงไม่เป็นความจริง และขอวิงวอนให้ สื่อมวลชนของประเทศไทยทุกสำนัก ช่วยตรวจสอบ และระมัดระวัง การนำเสนอข่าว ที่ กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยควรมีการ หาข้อมูล ที่เชื่อถือได้ ก่อนนำเสนอข่าว เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ ของ สำนักข่าวต่างประเทศที่ไม่หวังดีต่อประเทศไทย” พล.ต.ต.เชิงรณฯ กล่าว

 

Ad 1
Ad 2