เคสเด็ก ป.3 ถูกรุ่นพี่ทำร้าย ทางโรงเรียนเร่งหารือร่วมผู้ปกครองปิดจบด้วยความร่วมมือ ทุกฝ่าย ย้ำ!!แก้ปัญหาด้วยความรัก เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยวางมาตรการดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 08.40 น. มูลนิธิเป็นหนึ่งได้รับการร้องเรียนผ่านเพจ “Pokcik Channel” ขอให้เร่งช่วยเหลือกรณีเด็กชายวัย 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านคอลอกาเว อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ถูกรุ่นพี่นักเรียนชั้น ป.4 ทำร้ายร่างกาย ด้วยการใช้มือและรองเท้าตีที่ใบหน้าอย่างแรงหลายครั้ง เหตุเกิดในช่วงหลังเลิกเรียน
หลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายได้โทรศัพท์แจ้งครูที่ปรึกษา แต่ได้รับคำตอบในลักษณะไม่เชื่อว่าเด็กถูกทำร้าย เช่น “เด็กโดนตบจริงไหม”, “ถ้าถูกทำไมไม่ปิดหน้า”, “ทำไมไม่ร้องว่าเจ็บ” สร้างความตกใจให้กับครอบครัวผู้เสียหาย อีกทั้งยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า เด็กที่ก่อเหตุเคยทำร้ายเพื่อนนักเรียนรายอื่นมาแล้ว แต่หลายครอบครัวไม่กล้าแจ้งเรื่องเพราะไม่อยากมีปัญหา ส่งผลให้เด็กชายผู้เสียหายมีอาการหวาดกลัว ไม่กล้าขึ้นรถรับส่งนักเรียนอีก
ต่อมา วันที่ 15 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่มูลนิธิเป็นหนึ่งได้พาผู้เสียหายและครอบครัวเข้าแจ้งความที่ สภ.ศรีสาคร โดยมีญาติของเด็กผู้เสียหายคือ นางอนุรา กาเด (มารดา) และ น.ส.นาตีเราะ มามะ (พี่สาว) พร้อมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส บ้านพักเด็กและครอบครัวได้เข้าร่วม
น.ส.นาตีเราะ มามะ อายุ 27 ปี เล่าว่า ตนทราบเรื่องจากคลิปวิดีโอที่มีการส่งต่อกันแสดงภาพเหตุการณ์ขณะน้องชายถูกทำร้าย เมื่อสอบถาม น้องชายยืนยันว่าถูกเพื่อนนักเรียนทำร้ายจริงตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ภายในรถรับส่งนักเรียนของโรงเรียนบ้านคอลอกาเว หลังทราบเรื่องจึงได้แจ้งไปยังโรงเรียน แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จึงตัดสินใจพาน้องชายมาแจ้งความในวันนี้
โดยพ.ต.ต.จีรวัฒน์ โชติธมภักดี สารวัตร (สอบสวน) ได้รับคำร้องทุกข์ไว้และจะดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้านโรงเรียนบ้านคอลอกาเว โดยนางรอสีดาห์ ดาโอ๊ะ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องการหาทางออกบนพื้นฐานของความรักและความเข้าใจ
“เราอยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนร่วมกัน เพราะลูกศิษย์ทุกคนคือคนสำคัญ เราจะไม่สร้างรอยแผลซ้ำให้เกิดขึ้นกับเด็กๆแต่จะร่วมกันหามาตรการป้องกัน ดูแล และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับโรงเรียน” ผู้อำนวยการกล่าว
ทั้งนี้ โรงเรียนได้เชิญคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย เข้าหารือเพื่อหามาตรการดูแลนักเรียนในอนาคต โดยช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาอย่างเป็นทางการ เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา ป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดซ้ำอีก
นอกจากนี้ยังมีการยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมีสายสัมพันธ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน โดยผู้ปกครองได้มีการพูดคุยและขอโทษกันแล้ว และเด็กทั้งสองก็กลับมาเล่นกันตามปกติ แต่ทางโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งหามาตรการเชิงระบบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกนักเรียนจะได้รับความปลอดภัยและความเป็นธรรม