สาวใต้ที่ร้องถูกตำรวจจับเกินกว่าเหตุจนได้รับบาดเจ็บมาตามคดี 3 เดือนไม่คืบ
จากกรณีที่นางสาวจุฑารัตน์ เพชรรักษ์ เจ้าของผู้ประกอบการขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในภาคใต้ และนายชาติ แก้วตาทิพย์ นักแสดงอิสระ และเป็นที่ปรึกษากก.ตร.จ.สมุทรปราการ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมขณะกำลังนำรถบรรทุกสิบล้อมาคืนให้กับบริษัทรถเช่า ซึ่งขณะถูกจับกุมก็อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนอกเครื่องแบบใช้กำลังในการจับกุมเกินกว่าเหตุจนทำให้ ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ โดยได้นำคลิปหลักฐานขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมมาแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้( 18 ก.ย.67) ผ่านไปกว่า 3 เดือนแล้ว นางสาวจุฑารัตน์ เพชรรักษ์ และ นายชาติ แก้วตาทิพย์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีกับ พ.ต.อ.สลักษณ์ ( สอ-ลัก) จรัสร่มเย็น รองผบ.ก.ภ.จ.ราชบุรี เนื่องจากอยากทราบผลของการสอบสวนเพราะคู่กรณีนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งของตำรวจสภ.เมืองนครปฐม สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และชุดสืบสวนของตำรวจภูธร จ.ราชบุรี จึงเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมทั้งนำผู้เสียหายอีก 3 ราย ที่ถูกกระทำในวันเดียวกันมาสอบถามความคืบหน้าของคดีด้วย โดยได้มอบหลักฐานเพิ่มเติมเป็นคลิปภาพและเสียงในวันที่นายชาติ และนางสาวจุฑารัตน์ ถูกจับกุมโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ท้าทายให้นายชาตินั้นโทรหาผู้การแล้วก็ให้โทรหาผู้บัญชาการด้วยเพราะผู้บัญชาการสั่งมา ซึ่งในเรื่องนี้นายชาตินั้นเกรงว่านายตำรวจคนนั้นอาจจะแอบอ้างถึงผู้บัญชาการเพื่อให้นายชาตินั้นรู้สึกหวาดกลัว
โดยนายชาตินั้นก็บอกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุก็มีการเรียกตนกับนางสาวจุฑารัตน์และผู้เสียหาย อีก 3 คน ไปสอบแล้ว แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้ผลเป็นอย่างไร ยังไม่มีการติดต่อมาจากตำรวจว่าผลของคดีนั้นไปถึงไหน จึงอยากจะมาสอบถามความคืบหน้าของคดี โดยได้ไปยื่นหนังสือถึงพล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการภาค 7 และ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับหารตำรวจภูธร จ.นครปฐม แล้ว รวมทั้งขอให้ทางผู้บัญชาการภาค 7 ได้ทำการตรวจสอบคลิปภาพและเสียงที่มีการแอบอ้างนั้นว่า มีคำสั่งมาจริงหรือไม่ ส่วนในจ.ราชบุรี นั้นก็จะมาตามความคืบหน้าในเรื่องของการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ร่วมจับกุมว่าตอนนี้การสอบสวนไปไหนและขอให้มีการส่งผลการสอบสวนให้ทราบด้วย และหลังจากนี้ก็จะมาติดตามทุกเดือน เพราะเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งตนเองนั้นก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำรถบรรทุกสิบล้อที่นางสาวจุฑารัตน์ เช่ามาแล้วทางเจ้าของรถมาขอยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด และยินยอมที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับนางสาวจุฑารัตน์ ด้วย เพียงแต่แค่มาเป็นพยานในการคืนรถ เพราะตนเองนั้นมีบ้านอยู่ที่อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และบังเอิญในช่วงนั้นตนอยู่ที่บ้าน ซึ่งนางสาวจุฑารัตน์ ได้โทรชวนให้มาเป็นพยาน แต่พอมาถึงก็มาถูกจับกุมโดยยังไม่ทราบว่าถูกจับข้อหาอะไร และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.ปากท่อ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งหมด ซึ่งเมื่อเหตุเกิดมาแล้วถึง 3 เดือนแต่ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี หลังจากนี้ไปก็จะร้องไปตามหน่วยงานที่สูงขึ้นไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ด้านพ.ต.อ.สลักษณ์ ( สอ-ลัก) จรัสร่มเย็น รองผบ.ก.ภ.จ.ราชบุรี ก็บอกว่าหลังจากได้รับหนังสือแล้วก็จะนำเรียนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินการต่อไปด้วย
เบญจพร ศรีนวลจันทร์ /จ.ราชบุรี 0918097821
