วันพุธ, กันยายน 3, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมฝ่ายสืบสวนและปราบปรามศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมทางศุลกากรและการจัดเก็บรายได้ ศภ.2 หน่วยสืบสวนและปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และด่านศุลกากรนครพนม ตรวจยึดสินค้าข้าวเหนียวดำ ลักลอบนำเข้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร มูลค่ากว่า 200,000 บาท

ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมทางศุลกากรและการจัดเก็บรายได้ ศภ.2 หน่วยสืบสวนและปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และด่านศุลกากรนครพนม ตรวจยึดสินค้าข้าวเหนียวดำ ลักลอบนำเข้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร มูลค่ากว่า 200,000 บาท

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

การปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้นโยบายของ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และ นางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ที่มุ่งให้สำนักงานศุลกากรทั่วประเทศเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวของ

มุกดาหาร /เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 13.45 น. นายสุรัตน์ เรืองประยูร ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ศภ.2 ได้สั่งการให้ นายสมพล ไทยจงรักษ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมทางศุลกากรและการจัดเก็บรายได้ ศภ.2 หน่วยสืบสวนและปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และด่านศุลกากรนครพนม ได้ร่วมทำการตรวจค้นรถยนต์กระบะเสริมคอกเหล็ก สีขาว บริเวณถนนหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เนื่องจากการสืบสวนพบว่าจะมีการลักลอบนำของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร ผลการตรวจค้น พบข้าวเหนียวดำ เมืองกำเนิดต่างประเทศ บรรจุอยู่ในกระสอบสีขาว จำนวน 46 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 2,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 200,000 บาท บรรทุกอยู่ท้ายรถยนต์กระบะเสริมคอกเหล็กคันดังกล่าว โดยไม่มีเอกสารหรือหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องมาแสดง เจ้าหน้าที่ฯ ได้สอบถามคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ให้การว่ารับสินค้าบริเวณริมแม่น้ำโขง จ.มุกดาหาร เพื่อไปส่งสินค้าที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวผู้ขับขี่พร้อมของกลางส่งด่านศุลกากรนครพนม และขยายผลการข่าวเพื่อหาแหล่งนำเข้าสินค้าเถื่อนต่อไป กรณีดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานลักลอบนำของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 242, 246 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามมาตรา 166 และ 167 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงได้ยึดของนั้นส่งด่านศุลกากรนครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร

081-0501177

 

Ad 1
Ad 2