ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ช่วยรอดหมด สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.
โดย สถานที่ตรวจค้น ดังนี้
1. บริษัท ซาธอนิค จำกัด พื้นที่ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
2. ร้าน Apple Exchange พื้นที่ ทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร
3. บริษัท ซาโตชิโกลด์ จำกัด พื้นที่ ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ร่วมกันกล่าวโทษ ได้แก่
1. บริษัท ซาธอนิค จำกัด
2. นายกรปณต (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี
3. นายรุจิ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี
4. บริษัท ซาโตชิโกลด์ จำกัด
5. นายธณัฐนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี
พร้อมตรวจยึด ดังนี้
1.เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง
2.เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ต จำนวน 1 เครื่อง
3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
4.เอกสารเกี่ยวกับการรับจำนำไอคราวด์ จำนวน 1 แฟ้ม
5.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 บัญชี
เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด“
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากปฏิบัติการ Operation iLockdown : รื้อระบบล็อก iCloud ล้มระบบกู้เงินเถื่อน ครั้งที่ 1 ได้ตรวจค้นบริษัทฯ แห่งหนึ่งซึ่งมีการเปิดรับจำนำไอคลาวด์หลายสาขา อันเป็นนิติกรรมอำพรางสัญญากู้เงินและเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด ต่อมาได้มีผู้ร้องเรียนแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเพจ CIB และมีหนังสือร้องเรียนมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เกี่ยวกับบริษัทฯ ที่เปิดรับจำนำไอคราวด์ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้และเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดให้กับบุคคลทั่วไป ด้วยวิธีการรับจำนำไอคลาวด์ โดยการใช้บัญชี iCloud เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน โดยมีการทำสัญญาผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งบริษัทฯ ส่งลิงค์ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ปัจจุบัน ที่ทำงาน หมายเลขบัญชีธนาคารและถ่ายรูปใบหน้าถือบัตรประชาชนเพื่อทำสัญญาและส่งลิงค์เพื่อให้กรอกบัญชีไอคลาวด์ของบริษัทฯ ใส่ไว้ในเครื่องโทรศัพท์ของผู้กู้ เพื่อใช้ติดตามทวงหนี้และแจ้งเตือนให้ชำระหนี้ โดยมีการควบคุมระยะไกลผ่านบัญชีไอคลาวด์ หรือ ระบบ MDM (Mobile Device Management) โดยสามารถค้นหาพิกัดที่อยู่ปัจจุบันของผู้กู้ได้ทันที ซึ่งผู้กู้ยังสามารถใช้เครื่องได้ตามปกติและมีการชำระดอกเบี้ยเป็นงวดๆ โดยต้องชำระดอกเบี้ยคิดเป็นร้อยละ 270.1 ต่อปี จนกว่าจะมีเงินต้นมาชำระคืน หากผู้กู้ชำระดอกเบี้ยล่าช้าเกิน 3 วัน ทางบริษัทจะปรับเงินค่าล่าช้าวันละ 100 บาท และหากชำระล่าช้าเกิน 7 วัน เครื่องจะถูกล็อกทันที ในกรณีเครื่องถูกล็อกบริษัทฯ จะคิดค่าปลดล็อกเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบแหล่งที่ตั้งบริษัทฯ ที่ถูกร้องเรียน จึงได้ยื่นขออนุมัติหมายค้นจากศาล เข้าตรวจค้นที่ตั้งของบริษัทฯ ที่ถูกร้องเรียน ซึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวม 3 จุด จากการตรวจค้นพบพนักงานบริษัทฯ กำลังตรวจสอบข้อมูลผู้กู้ผ่านระบบออนไลน์ ,กระดานซึ่งมีการเขียนขั้นตอนการทวงถามหนี้ จำนวนผู้กู้ ยอดเงินที่กู้ เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง ,เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ต จำนวน 1 เครื่อง ,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง , เอกสารเกี่ยวกับการรับจำนำไอคราวด์ จำนวน 1 แฟ้ม ซึ่งพบจำนวนผู้กู้กว่า 2,000 ราย และสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 บัญชี ตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและนำพยานหลักฐานดังกล่าวประกอบการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในฐานความผิด “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.