กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำทีมโดย บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับ สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ปฏิบัติการตรวจค้นสถานพยาบาลรับทำศัลยกรรมอวัยวะเพศเถื่อน และแพทย์เถื่อน ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 2 จุด จับกุมหมอเถื่อน จำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด นำโดย กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ พฤติการณ์สืบเนื่องจากจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ให้ตรวจสอบคลินิกศัลยกรรมที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและผูตรวจรักษาโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ โดยคลินิกแห่งหนึ่งมีการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ สื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ามีแพทย์ผู้ความเชี่ยวชาญในการฉีดเพื่อเพิ่มขนาดและขลิบอวัยวะเพศชาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนพบว่า มีสถานพยาบาลในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เปิดทำการรักษาโดยใช้บุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ทำการตรวจรักษาให้ประชาชนทั่วไปจริง จึงเป็นการนำมาสู่การระดมกวาดล้างหมอเถื่อน และสถานพยาบาลเถื่อนในครั้งนี้
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก. ปคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สบส.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี(สสจ.) ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบคลินิกในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
1. คลิกนิกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณถนนรังสิตนครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรีเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ซึ่งโฆษณาเปิดรับศัลยกรรมความงาม ยกคิ้ว ตัดถุงใต้ตา รับฉีดเพิ่มขนาดและขลิบอวัยวะเพศชาย ขณะเข้าตรวจค้น พบ นายเคนโซ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี กำลังทำหัตถการให้กับผู้มารับบริการ จากการตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล แต่อย่างใด โดยพบว่า ภายในคลินิกที่ใช้ตรวจรักษามีสภาพไม่ถูกสุขอนามัยเป็นอย่างมาก โดยวางอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งที่ใช้แล้ว และยังไม่ใช้รวมกันบนพื้นและในห้องครัว อีกทั้งนำหลอดฉีดยาที่เจาะเลือดแล้วผู้ป่วยวางรวมอยู่ในตู้เก็บของ โดยไม่มีการแยกขยะติดเชื้อแต่อย่างใด รวมถึงนำขยะที่อาจติดเชื้อทิ้งไว้รวมกับขยะหรืออุปกรณ์การแพทย์อื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกัน จับกุม นาย เคนโซฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นยาแผนปัจจุบันและเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในการรักษา จำนวน 30 รายการ รวม 625 ชิ้น นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี
จากการสอบถาม นาย เคนโซ ฯ รับว่าตนเองจบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล มาทำงานที่นี้ได้ประมาณ 3-4 เดือน รับเงินเดือนเดือนละ 27,000 บาท โดยคลินิกนี้มีแพทย์เข้ามาทำหัตถการเป็นบางวันและตนเองก็จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ที่มาทำรักษา วันใดที่มีประชาชนมาใช้บริการโดยไม่มีนายแพทย์ ก็จะทำหัตถการด้วยตนเอง ซึ่งสถานพยาบาลดังกล่าวเปิดดำเนินการมีสาขาทั่วประเทศหลายสาขา โดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบแพทย์ที่โฆษณาเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป
2. คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่ง บริเวณถนนรังสิตนครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยคลินิกดังกล่าวเปิดให้บริการฉีดฟิลเลอร์ โบท๊อกซ์ เลเซอร์ ร้อยไหม และศัลยกรรมอื่น ขณะตรวจค้นพบ น.ส.อริยา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี กำลังทำหัตการฉีดวิตามินให้กับผู้มารับบริการ โดยจากการตรวจสอบพบว่า สถานพยาบาลได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ไม่มีแพทย์อยู่ประจำ สอบถาม น.ส.อริยาฯ รับว่า ตนเองจบการศึกษาระดับ ปวช. และไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยทำงานมาประมาณ 1 ปี รายได้เดือนละ 15,500 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันจับกุมตัว น.ส.อริยาฯ พร้อมตรวจยึดของกลางเป็น ยาแผนปัจจุบัน และยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา รวม 13 รายการ จำนวน 175 ขวด ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี
รวมตรวจค้น 2 จุด โดยเป็นสถานพยาบาลเถื่อน จำนวน 1 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาที่เป็นแพทย์เถื่อน จำนวน 2 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง เช่น ยาแผนปัจจุบัน ยาขึ้นไม่ขึ้นทะเบียนตำรับ รวมทั้งพยานหลักฐานอื่นๆ จำนวน 43 รายการ
อนึ่ง การปล่อยให้บุคคลที่มิใช่แพทย์มาให้บริการรักษา ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตได้ โดยหากพบการกระทำความผิดพนักงานสอบสวนจะมีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป