“ทรัมป์” เผย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชามีผู้เสียชีวิตถึง 2,000 ราย
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา อาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนียได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพที่มีสหรัฐฯ เป็นคนกลาง โดยระหว่างการแถลงข่าวลงนามข้อตกลง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่า ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความปรารถนาสูงสุดของตน คือ การนำสันติภาพและเสถียรภาพมาสู่โลก โดยยกตัวอย่างเหตุขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกซึ่งเขาได้เข้าไปมีส่วนทำให้คลี่คลาย เช่น อินเดีย-ปากีสถาน หรือรวันดา-สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก รวมถึงเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
โดยทรัมป์กล่าวว่า “เหตุปะทะไทยกับกัมพูชาเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้เอง ตอนนั้นเพิ่งเริ่มต้น มีผู้เสียชีวิต 2,000 คนบริเวณชายแดน (that was just starting, 2,000 people were dead on the border.) แต่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง”
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกองบัญชาการกองทัพไทยระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตฝั่งไทยจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ยอดสะสมถึงวันที่ 10 ส.ค. มีอยู่ 30 ราย เป็นพลเรือน 14 ราย และทหาร 16 นาย จึงไม่ชัดเจนว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิต 2,000 รายที่ทรัมป์กล่างถึงนั้น เป็นข้อมูลจากที่ใดหรือฝั่งไหน
ทรัมป์ยังเสริมว่า “ผมคุยกับ 1 ใน 2 ประเทศที่กำลังคุยกันเรื่องการค้า แล้วบอกว่า ‘ผมจะไม่ลงนามข้อตกลงการค้า ถ้าพวกคุณจะสู้กัน’”
ทรัมป์กล่าวชื่นชมผู้นำไทยและกัมพูชา ว่าเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม “เรายุติสงครามได้ และพวกเขาจะมีการปะทะกันเป็นระยะ ๆ เหมือนกับที่คุณสองคน (อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจาน) เคยทำสงครามระยะยาว และเราก็หยุดมันได้”
ทรัมป์บอกว่า “ผมพบว่าในทุกกรณี พวกเขาเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วย ผมคงบอกว่าพวกเขาเป็นผู้นำที่แย่มาก ถ้าพูดตามตรง พวกเขาก็เห็นด้วย สำหรับไทยกับกัมพูชา เราได้หยุดอะไรบางอย่างที่กำลังจะเริ่มต้นได้แล้ว และเราก็ช่วยชีวิตคนไว้มากมาย รวมถึงคนอื่น ๆ อีกจำนวนมาก”
ทรัมป์พยายามแสดงตนในฐานะผู้สร้างสันติภาพระดับโลกในช่วงเดือนแรก ๆ ของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ทำเนียบขาวยกย่องเขาในฐานะคนกลางในการไกล่เกลี่ยเหตุขัดแย้งหลายจุดทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ประสบความสำเร็จในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา.
เรียบเรียงจาก Reuters