“สืบนครบาล 8 ทีมเวิร์คเฉียบ ขยายผลบุกรวบหัวจ่ายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ซุกไอซ์ 314 kg., คีตามีน 22 kg.ไว้ในรถย่านรามคำแหง”
เมื่อเวลา 13:00 น.วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2568 ณ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 กองบัญชาการตำรวจนครบาล แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบช.น.เดินทางร่วมแถลงผลการจับกุมหัวจ่ายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ซุกยาเสพติดไว้ในรถย่านรามคำแหง โดยมี
พล.ต.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น.8, พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.น.8, พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผบก.น.8, พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ กก.สส.บก.น.8 ร่วมแถลงผลการปฏิบัติจากการขยายผล จนกระทั่งเข้าจับกุม 2 ผู้ต้องหาที่เป็นหัวจ่ายขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่
จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล “No Drugs No Dealers” โดย พณฯท่าน ภูมิธรรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกภาคส่วน เร่งปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด เนื่องจากเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงและเป็นต้นเหตุของการเกิดอาชญากรรมในสังคม อันจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” อย่างเข้มข้น โดยกำหนดให้มีผลการปฏิบัฏิบัติที่เป็นรูปธรรมภายในระยะเวลา 3 เดือน
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบช.น.จึงได้สั่งการและกำหนดแนวทางในการปฏิบัติ โดยให้ทุกหน่วยในสังกัดเริ่มดำเนินการ X-Ray พื้นที่ ในการค้นหาผู้เสพ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 พร้อมกันทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นให้ดำเนินการขยายผผลดำเนินการไปยังผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ เพื่อดำเนินการสืบสวนจับกุม และดำเนินการยึดทรัพย์โดยเด็ดขาด
กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 โดย พล.ต.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น. 8, พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน
รอง ผบก.น.8 ได้สั่งการให้ 11 สถานีตำรวจในสังกัด ร่วมกับ กก.สส.บก.น.8 เร่งดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น ของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด ซึ่งจากการดำเนินการ X-ray พื้นที่ และการขยายผลจับกุมผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่รับผิดชอบ พบข้อมูลของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน รวมถึงในพื้นที่รับผิดชอบของ บก.น.8
กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 โดย พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8, พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส, พ.ต.ท.อชิรเวชย์ สุพรรณเภสัช, พ.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ รอง ผกก.สส.บก.น.8, พ.ต.ท.นัทธพงศ์ แก้วอยู่, ว่าที่ พ.ต.ต.ทรงผล นาคชำนาญ สว.กก.สส.บก.น.8 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด กก.สส.บก.น.8 จึงได้ร่วมกันสืบสวนติดตาม โดยพบพฤติกรรมของกลุ่มผู้กระทำความผิดที่เป็นเป้าหมายดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้กระทำความผิดไว้ได้โดยมีรายละเอียดดังนี้
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00:10 น.ณ บริเวณกลางชอยรามคำแหง 37 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปี กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่อง บริเวณดาดฟ้าหอพัก ตั้งอยู่ภายในชอยรามคำแหง 37 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ชุดปฏิบัติการได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย คือ
1. นายวศิน หรือโบ๊ท (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี
2. นายอัฟด๊อล หรือด๊อล (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามึน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และร่วมกันจำหน่าย เพื่อจำหน่าย ซึ่งวัตถุอออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” พร้อมด้วยของกลาง โดยมี
1. ยาไอซ์ จำนวน 314 ถุง น้ำหนักถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักประมาณ 314 กิโลกรัม
2. คีตามีน จำนวน 22 ถุง น้ำหนักถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักประมาณ 22 กิโลกรัม
3. รถยนต์ที่ใช้ซุกซ่อนและรับ-ส่งยาเสพติด จำนวน 1 คัน
4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
พฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากการดำเนินการตามนโยบาย ” No Drugs No Dealers” จนทราบว่า มีเครือข่ายลักลอบน้ำยาเสพติดมาจำหน่ายในเขตพื้นที่กรงเทพมหานครชั้นใน และในพื้นที่รับผิดชอบของ บก.น.8 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงต้นทางยาเสพติด จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ย่านรามคำแหง มีพฤติกรรมชุกช่อนยาเสพติดไว้ภายในรถยนต์ และนำรถยนต์มาจอดไว้ภายใน ซ.รามคำแหง 37 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร และจะไปรับยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ จากนั้นจะทยอยกระจายยาเสพติดให้กับผู้ค้ารายย่อย โดยจะเก็บซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ ยี่ห้อToyota รุ่น Avanza สีขาว เพื่อเป็นการอำพราง โดยมีนายวศิน (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เป็นผู้ดูแลและจัดส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า จึงได้สืบสวนติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา ต่อมาวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 19:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายวศินฯ ได้ขึ้นรถยนต์ยี่ห้อ Toyota รุ่น Aกzanza สีขาว และขับออกไป พร้อมกับนายอัฟด๊อลฯ (ทราบชื่อภายหลัง) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสะกดรอยติดติดตามไปถึงลานจอดรถ ย่านอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในลักษณะมีพิพิรุธต้องสงสัยว่าอาจจะมีการรับ-ส่งยาเสพติด จากนั้นได้นายวศินฯ ได้ขับรถยนต์มุ่งหน้ากลับเข้าพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร และมาจอดอยู่ภายใน ซ.รามคำแหง 37 แขวงหัวหมาก เชตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร และพบเห็น นายวศินฯ และนายอัฟด๊อลฯ ลงจากรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ
1. ยาไอซ์ จำนวน 239 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 239 กิโลกรัม
2. คีตามีน จำนวน 22 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 22 กิโลกรัม
3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง จึงได้ ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟ
ตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และร่วมกันจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งวัตถุ ออกฤทธิ์โนประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปที่กองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 เพื่อทำการชักถามขยายผล
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการชักถามผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เกี่ยวกับที่ซุกซ่อนยาเสพติดว่ายังมียาเสพติดเก็บซุกซ่อนอยู่ที่ใดอีกหรือไม่ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การว่าบริเวณดาดฟ้าหอพักภายใน ซ.รามคำแหง 37 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร มียาไอซ์ซุกช่อนอยู่อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ภายในถุงกระสอบสีรุ้ง จำนวน 75 ถุง น้ำหนักรวมประประมาณ 75 กิโลกรัม จากการตรวจค้นทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึด
1. ยาไอซ์ จำนวน 314 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 314 กิโลกรัม
2. คีตามีน 22 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 22 กิโลกรัม
3. รถที่ใช้รับ-ส่งและซุกช่อนยาเสพติด จำนวน 1 คัน
หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวในข้อหา สมคบฯ ฟอกเงิน และประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามมาตรการตรวจยึดทรัพย์ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณ
พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน
รอง ผบก.น.8
สนับสนุนข้อมูล
