วันเสาร์, สิงหาคม 2, 2025
หน้าแรกทหารทบ.เก็บหลักฐานทหารเขมร เบี้ยวข้อตกลงหยุดยิง เปิดฉาก 7 เหตุการณ์  ใช้ทั้งปืนเล็ก-ปืนใหญ่ เผย พื้นที่ภูมะเขือ กัมพูชายังคงลาดตระเวนโดยรอบภูมะเขือ ...

ทบ.เก็บหลักฐานทหารเขมร เบี้ยวข้อตกลงหยุดยิง เปิดฉาก 7 เหตุการณ์  ใช้ทั้งปืนเล็ก-ปืนใหญ่ เผย พื้นที่ภูมะเขือ กัมพูชายังคงลาดตระเวนโดยรอบภูมะเขือ  ใช้อาวุธวิถีโค้งโจมตี 01.00 น. ชี้ ที่ปราสาทตาควาย-ปราสาทตาเมือน ทั้งสองฝ่าย ยังคงวางกำลังควบคุมพื้นที่

กดที่นี่เพื่ออ่านข่าว

ทบ.เก็บหลักฐานทหารเขมร เบี้ยวข้อตกลงหยุดยิง

เปิดฉาก 7 เหตุการณ์

ใช้ทั้งปืนเล็ก-ปืนใหญ่

เผย พื้นที่ภูมะเขือ กัมพูชายังคงลาดตระเวนโดยรอบภูมะเขือ

ใช้อาวุธวิถีโค้งโจมตี 01.00 น.

ชี้ ที่ปราสาทตาควาย-ปราสาทตาเมือน ทั้งสองฝ่าย ยังคงวางกำลังควบคุมพื้นที่

เผย ทหาร เสียชีวิต: 15 นาย

บาดเจ็บ: 175 นาย

 

.

 

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเวลา 00.00 น. (29 ก.ค. 68) ปรากฏการคุกคามของกำลังประเทศกัมพูชาใน 7 เหตุการณ์ ดังนี้

 

1.พื้นที่ช่องบก เกิดการปะทะด้วยปืนเล็กที่เนินโนเนมทางทิศตะวันตกช่องบก

2.พื้นที่ช่องอานม้า เวลา 05.00 น. เกิดการปะทะด้วยอาวุธยิงสนับสนุน สิ้นสุดในเวลา 09.00 น. ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งชุดประสานงานบริเวณทิศใต้ช่องอานม้า

3.พื้นที่ซำแต เกิดการปะทะ ฝ่ายเราสามารถควบคุมพื้นที่เอาไว้ได้

4.พื้นที่ช่องตาเฒ่า ตรวจพบการนำยานพาหนะพร้อมกำลังพลเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่ ปัจจุบันกำลังดังกล่าววางกำลังอยู่บริเวณปากช่องตาเฒ่า

 

5.พื้นที่ภูมะเขือ ฝ่ายประเทศกัมพูชายังคงลาดตระเวนโดยรอบภูมะเขือ และใช้อาวุธวิถีโค้งโจมตีต่อฝ่ายเราในช่วงเวลา 01.00 น.

 

6. พื้นที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือน ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังควบคุมพื้นที่

 

7.ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับไม่ทราบฝ่าย บินอยู่เหนือที่ตั้งทางทหาร และสนามบินตามแนวชายแดนหลายแห่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของอากาศยานไร้คนขับดังกล่าว

 

ผลการประชุมไทย–กัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อ (28 ก.ค. 68) โดยมี นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (ประธานอาเซียน 2025) เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมทั้งผู้แทนจากสหรัฐอเมริกาและจีนร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

 

โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ฟื้นการเจรจาทวิภาคี มีการหารือไม่เป็นทางการระหว่างแม่ทัพภาคแล้ว และเตรียมจัดประชุม GBC (4 ส.ค.) และ JBC (ก.ย.) ตามที่ไทยเสนอ ข้อตกลงยังเน้นให้ประชาชนที่อพยพสามารถกลับบ้านได้เมื่อสถานการณ์เหมาะสม ฝ่ายไทยย้ำให้กัมพูชาหยุดโจมตีพลเรือน และเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

 

ขณะนี้การหยุดยิงยังเปราะบาง หน่วยงานในพื้นที่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมขอบคุณประเทศที่สนับสนุนกระบวนการสันติ

 

ต่อมาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00.น. ได้มีการหารือระหว่าง พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กับ พลเอก โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ได้ข้อสรุปสำคัญเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียด โดยมีประเด็นหลักที่ตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ดังนี้

 

1.หยุดยิง

2.ห้ามใช้กำลังต่อประชาชนคนไทย

3.หยุดเพิ่มเติมกำลัง

4.ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง

5.ฝ่ายไทยจะอำนวยความสะดวกในการนำทหารกัมพูชาที่ได้รับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ออกจากพื้นที่การรบ

6.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการจัดตั้งชุดประสานงานเพื่อแก้ปัญหาตลอดแนวชายแดนในความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่ 2 ฝ่ายละ 4 นาย สำหรับฝ่ายไทย ได้กำหนดให้ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เป็นหัวหน้าคณะฯ

7.ให้กำลังทุกส่วนลดการเผชิญหน้าทุกรูปแบบและรอผลการหารือของที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย – กัมพูชา ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เพื่อนำมากำหนดเป็นแนวทาง ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติอีกครั้งหนึ่ง

 

การปฏิบัติด้านมนุษยธรรม – กองทัพภาคที่ 2 ควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ยอมจำนน หลังเหตุปะทะที่ซำแต (29 ก.ค. 68) จากการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาที่ยิงอาวุธเข้าพื้นที่ไทย หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจสามารถควบคุมตัวทหารกัมพูชาได้ 18 นาย พร้อมอาวุธ โดยไม่มีการคุกคาม และพบผู้เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย ส่งรักษาที่โรงพยาบาล

 

ขณะนี้ ทหารฝ่ายกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของไทยในพื้นที่ปลอดภัย โดยได้รับอาหาร สิ่งของจำเป็น และการรักษาตามหลักมนุษยธรรมสากล โดยฝ่ายไทยจะส่งคืนศพทหารที่เสียชีวิตตามหลักปฏิบัติในภาวะสงคราม และยืนยันยึดมั่นอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด

 

ด้านภัยคุกคามจากการปล่อยข่าวเท็จ – ตรวจพบการปล่อยข่าวอันเป็นเท็จ สร้างความเข้าใจผิดให้กับนานาประเทศในหลายรูปแบบ โดยขณะนี้สื่ออย่างเป็นทางการของหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยทุกภาคส่วนได้นำเสนอเหตุการณ์จริง พร้อมคำแปลภาษา เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ได้รับทราบ โดยเช้าวันนี้ กองทัพไทยปฏิเสธคำแถลงโฆษกกลาโหมกัมพูชา กรณีฝ่ายกัมพูชาหยุดยิงทุกพื้นที่ กองทัพไทยยืนยันข้อเท็จจริงตรงข้ามกับคำแถลงของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่อ้างว่าไม่มีเสียงปืน และหยุดยิงสมบูรณ์ตั้งแต่เที่ยงคืน 28 ก.ค. 68 โดยฝ่ายกัมพูชายังยิงอาวุธเข้าไทยหลังข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งไทยมีหลักฐานชัดเจน กองทัพไทยประณามการบิดเบือนความจริงของโฆษกฯ ว่าเป็นการสร้างเหตุการณ์เท็จ บ่อนทำลายความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันไทยไม่เคยเริ่มความรุนแรง แต่มีสิทธิปกป้องอธิปไตยและประชาชนตามหลักกฎหมายสากล

 

สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบ (ยอดสะสมถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2568)

 

1. พลเรือน

เสียชีวิต: 15 ราย

บาดเจ็บสาหัส: 12 ราย

บาดเจ็บปานกลาง: 13 ราย

บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย

▶️ รวมทั้งสิ้น 53 ราย

 

2. ทหาร

เสียชีวิต: 15 นาย

บาดเจ็บ: 175 นาย

▶️ รวมทั้งสิ้น 190 นาย

 

ทั้งนี้ กองทัพไทยขอร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกองทัพจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทยอย่างถึงที่สุด

ภาพ :กองทัพบก

#เขมรยิงก่อน

#ProtectThaiSovereignty

#หยุดยิงประชาชน

#CambodiaOpenedFire

ที่มาวาสนา  นาน่วม

Ad 1
Ad 2